คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

การตัดสินคดีขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงยา นับเป็นคดีใหญ่ที่มีผลกระทบทั้งในประเทศและในระดับสากล

ไม่เพียงจำเลยมีมากนับร้อยคน หากเพราะ ในบรรดาจำเลยมีอดีตบุคคลในกองทัพและ ข้าราชการอื่นๆ รวมอยู่ด้วย

ในขณะที่คดีค้ามนุษย์เป็นคดีร้ายแรงระหว่างประเทศ มีผลกระทบถึงการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน หากเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกระทำผิดเองจะยิ่งทำให้ปัญหาและสถานการณ์รุนแรงกว่าเดิม

แต่เมื่อคดีเดินหน้ามาตั้งแต่การสืบ สวนสอบสวน จนจบที่คำตัดสินของศาล จึงถือเป็นคดีตัวอย่างที่สะท้อนความ เอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหา

แม้บุคคลร่วมวิชาชีพจะมีความกังวลว่าจำเลยในคดีค้ามนุษย์ดังกล่าวมีอดีตนายทหารรวมอยู่ด้วย แต่ก็มีความโล่งใจเช่นกันว่าบุคคลที่กระทำผิดต้องพ้นออกจากตำแหน่งหน้าที่ที่เคยใช้แสวงหาประโยชน์

กรณีนี้จึงเหมือนอาชีพอื่นๆ ว่าเมื่อมีบุคคล ก่ออาชญากรรมอยู่ในวิชาชีพใด ก็อาจทำให้บุคคลร่วมอาชีพไม่สบายใจ เพราะเกรงจะมีผล กระทบต่อชื่อเสียง ความน่าเคารพนับถือไปด้วย

แต่สุดท้ายแล้วก็จะพบว่า การจัดการปัญหาไปตามกระบวนการโดยเปิดเผยนั้น ส่งผลดีต่อสังคมส่วนรวม

ทำให้เกิดการตรวจสอบ ระแวดระวัง ไม่ให้มีบุคคลฉวยใช้อาชีพนั้นๆ ทำร้าย กดขี่ หรือแสวงหาประโยชน์จากผู้อื่น โดยเฉพาะผู้เสียเปรียบทางโอกาส ในสังคม

ที่ผ่านมาคนในสังคมสามารถแยกแยะได้ว่า การกระทำผิดในคดีอาชญากรรมทางสังคมไปจนถึงเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองนั้นเป็นเรื่องการตัดสินใจและการใช้กำลัง ของตัวบุคคลหรือคณะบุคคล ไม่ได้เหมารวมว่าคนในอาชีพนั้นๆ ทุกคนทำผิด หรือมีแนวโน้ม จะกระทำผิด

ไม่ว่าจะเป็นครู หมอ พระสงฆ์ ตำรวจ ทหาร คนขับแท็กซี่ ฯลฯ ล้วนเป็นอาชีพที่เคยมีผู้ก่ออาชญากรรมคดีใหญ่ๆ มาแล้ว แต่คดีเหล่านั้นไม่ได้ทำลายความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบวิชาชีพโดยสุจริตคนอื่นๆ ได้

ความขุ่นข้องว่าสื่อมวลชนจะนำเสนอข่าวอาชญากรรมว่าเกี่ยวโยงกับอาชีพใดหรือไม่ จึงเป็นความวิตกที่มากเกินไป

หากยึดข้อเท็จจริงแล้ว ก็จะลดความวิตกลงได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน