บทบาท นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กำลังตีคู่มากับบทบาท นายวัฒนา เมืองสุข

คนหนึ่งอยู่ “เพื่อไทย” คนหนึ่งอยู่”นปช.”

เมื่อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ต้องคำพิพากษาจำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา

เสียงจาก นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็หายไป

นปช.จึงมีแต่เสียงของ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้ามาวางเรียงเคียงกับของ นายวัฒนา เมืองสุข

ยิ่งคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้มข้น

ยิ่งทำให้บทบาทของ นายวัฒนา เมืองสุข กับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้รับการจับตามองมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะจาก “กกล.รส.”

ความแหลมคมของ นายวัฒนา เมืองสุข อยู่ที่เป็นการมองผ่านปม ทางกฎหมายแล้วโยงเข้าการเมือง

เพราะเขาเป็น “นักกฎหมาย”

“คดีนี้มีประชาชนที่รักความเป็นธรรมอีกหลายสิบล้านคนทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจเช่นกัน”

ตรงกันข้าม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ การเมืองเน็ต-เน็ต

“การที่ประชาชนมาให้กำลังใจเป็นการแสดงออกซึ่งความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีเกมใต้ดิน

“หน่วยความมั่นคงที่ลงพื้นที่ตรวจสอบต่างก็รู้ว่าไม่มีการจัดตั้งเพื่อสร้างสถานการณ์ แต่การสกัดกั้นโดยรัฐนั้นไม่แน่ใจว่าเกิดจากความกลัวของผู้มีอำนาจหรือไม่”

เท่ากับถามว่า ใครกำลังกลัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในทางการเมือง

จากนี้จึงเห็นได้ว่า อาวุธไม่ว่าจะมาจาก นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ว่าจะมาจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน

เป็นอาวุธจากการตั้งข้อสังเกต จากการเปรียบเทียบ จากการสังเคราะห์และวิเคราะห์

เป็นการยืม “ประเด็น” มาจาก “คสช.”

หากไม่มีคำสั่งสกัด ขัดขวาง จากกกล.รส.ทั้ง 4 ภาคทั่วประเทศ 2 คนนี้คงไม่มี “ประเด็น”ที่จะนำไปสังเคราะห์และวิเคราะห์ได้

กกล.รส.ขยับ พวกเขาก็ขยับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน