ด่าเก่งไม่เคยผิด – คนระยองมีสิทธิด่ารัฐบาลไหม ไม่ใช่แค่คนเมืองฮิหรอก คนไทยทั้งประเทศนี่แหละ มีสิทธิโกรธ มีสิทธิอันชอบธรรมที่จะก่นด่ารัฐบาล ศบค. “การ์ดอย่าตกๆ” ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินบังคับประชาชน ใช้ยาแรงล้นเกิน กระทั่งตัวเลขติดเชื้อเป็นศูนย์ 45 วัน ยังกั้นคอกห้ามเด็กอนุบาลถูกเนื้อตัวกัน คนไทยก็อุตส่าห์อดทนอดกลั้น หวังว่าเชื่อฟังคำสั่งแล้วจะได้กลับมาทำมาหากินโดยเร็ว
ที่ไหนได้ รัฐบาลกลับการ์ดตกเสียเอง ทั้งลูกอุปทูตซูดาน และทหารอียิปต์ ซึ่งไม่ใช่แค่แอบไปเที่ยวห้าง แต่ใครปล่อยให้เขาไปพักโรงแรม ที่มีคนไทยพักเต็มไปหมด กระทรวงต่างประเทศ กองทัพอากาศ อู่ตะเภา ประสานกับเขาอย่างไร ทำไมบอกแค่ “คิดไม่ถึง” แต่ไม่มีใครรับผิด
หน่วยงานรัฐใต้กำกับ ศบค.บกพร่องหละหลวมเสียเอง อุตส่าห์ไล่จับเด็กแว้น ข่มขู่ผับบาร์ ทหารตำรวจไปกั้นรั้วลวดหนามตามแนวชายแดน กลัวแรงงานพม่าลาวเขมร โควิดกลับเหาะมาทางอากาศ ที่ประชาชนเชื่อว่ามีมาตรการดูแลเข้มข้น
ยิ่งไปกว่านั้น พอเกิดเหตุขึ้น แทนที่จะรีบขอโทษ ยอมรับความผิดพลาด หมอทวีศิลป์กลับบอกว่า ไม่สามารถโทษใคร ไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไร รอง ผบ.ทบ.ก็บอกว่าเป็นปัญหาตัวบุคคล ไม่ใช่ระบบ ประชาชนก็ยิ่งโกรธไปใหญ่ อะไรวะ ทีกับชาวบ้าน ขู่ได้ขู่เอา
ประชาชนรู้สึกมาก่อนหน้านี้แล้วละ ว่ามาตรการต่างๆ “สองมาตรฐาน” บีบคอคนที่เป็นเบี้ยล่าง อย่างธุรกิจกลางคืน ผับบาร์ ตั้งด่านจับเด็กแว้น กับยัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินให้ไอ้พวกเคลื่อนไหวการเมือง คนแห่ไปเที่ยวแออัดไม่ว่า แต่ครูตั้งหน้าตั้งตาบังคับเด็กให้รักษาระยะห่าง
อ้าว รัฐมนตรี สธ. กับผู้ช่วยโฆษก ศบค. ไปงานสถานทูตไม่ยักใส่หน้ากากนะคะ ผบ.ทบ.สหรัฐมาก็ไม่ต้องกักตัว แม้สามารถชี้แจงได้ว่าเรามีเจ้าหน้าที่ประกบ เขาไม่ออกนอก เส้นทาง แต่ถัดมาไม่กี่วันเกิดกรณีทหารอียิปต์ คนไทยทั้งประเทศ-ยกเว้นสลิ่ม ก็ด่าสนั่นหวั่นไหว
ประยุทธ์ขอโทษ “ก็ขอโทษด้วยแล้วกัน” ฟังน้ำเสียงเหมือนไม่เต็มใจ แล้ววกไปขู่ผับบาร์ วันรุ่งขึ้นก็ด่าอีก พวกเต้นในผับบาร์ให้ระวัง หัวจะชนกันอยู่แล้ว จะให้เฆี่ยนอย่างอินเดียหรือไง
มันอัลไลกัน ชาวบ้านผิดตรงไหน ปัญหาเกิดจากความบกพร่องของรัฐ กลับมาข่มขู่สั่งสอนประชาชน ซ้ำยังตำหนิสื่อมวลชน ว่าเสนอข่าวทำให้ตื่นตระหนก ทั้งที่ยังไม่มีคน ติดเชื้อ
โทษสื่อ โทษผับ โทษคนไทย หย่อนยาน ไร้วินัย ตื่นไฟ อะไรนิดอะไรหน่อยก็หูตาแหก จึงไม่แปลกเลย ที่โลกออนไลน์แจกอวัยวะกันลือลั่น
มันใช่หรือเปล่า เหลียวหลังไปดูหน่อยสิ ยังไม่ทันไรเลย หลายจังหวัดประกาศ ใครกลับจากระยองต้องกักตัว 14 วัน มหาดไทยก็สำทับ ทุกจังหวัดให้รายงานตัว บางจังหวัดรวมคนจากกรุงเทพฯ ด้วยซ้ำ ทั้งที่กรมควบคุมโรคบอกว่ามีคนเสี่ยงต่ำใช้ลิฟต์ตามหลังผู้ติดเชื้อแค่ 15 คน
ใครบ้าจี้ตื่นตระหนกกันแน่ แล้วใครสร้างความหวาดกลัวตั้งแต่ต้น ศบค.กับพวกหมอสายเหยี่ยว “รัฐเวชกรรมอำนาจนิยม” ตัวเลขเป็นศูนย์ก็ยังขู่คนไทยขนหัวลุกรายวัน แค่พบทหารอียิปต์กับลูกทูต 9 ขวบ ใส่หน้ากากทั้งคู่ จะถึงขั้นกึ่งปิดประเทศ เดือนมีนาเมษาเราเจอวันละร้อยกว่า ก็ไม่เห็นติดเชื้อสามแสน ตายเจ็ดพัน
แต่ความกลัวเป็นอาวุธ ทำให้สามารถรวบอำนาจ “รัฐประหารมีใบรับรองแพทย์” ทำให้ประชาชนเชื่อฟังคำสั่ง ทั้งที่หลายอย่างไร้เหตุผล เช่นเคอร์ฟิวจับไวรัส แล้วก็อวดอ้างผลงาน
พอรัฐพลาดบ้าง ความกลัวก็เลยกลายเป็นความโกรธ พ่วงความตื่นตระหนก ตาม Mindset ที่รัฐสร้าง “เผาบ้าน ไล่ไวรัส”
คนระยองก็เลยเจ็บหนัก ไม่ใช่แค่คนกลัว ยกเลิกจองโรงแรมที่พัก ต่อให้ไม่กลัว ถ้ามาเที่ยวระยอง กลับจังหวัดตัวเองต้องไปรายงานตัว ใครวะ จะอยากมาเที่ยว
เข้าใจนะ ประยุทธ์บินด่วนไประยอง ไปพบแม่ค้าประชาชนขอให้เชื่อมั่น ยอมไปแออัดอยู่กลางตลาด กลับมาไม่ต้องกักตัว 14 วัน ก็เพราะไม่ต้องการให้คนตื่นตระหนก (แต่ทำไมไม่สั่งมหาดไทย ศธ. ว่าไม่ต้องตื่นตูมกักตัวหรือรีบปิดโรงเรียนเกินไป)
แต่คุณก็ต้องเข้าใจด้วยกัน ว่าประชาชนโกรธจนตัวสั่น โดยเฉพาะคนระยอง ที่เพิ่งได้กลับมาทำมาหากิน แต่วันนี้ ทุกอย่างพัง
มันจึงไม่แปลกเลยที่มีเยาวชน 2 คนไปถือป้ายด่า แต่รัฐกลับไม่ยอมให้เขาแสดงออก ตำรวจเอาตัวขึ้นรถไปปล่อย แต่พอเขาแจ้งจับ ตำรวจก็โทร.กลับมากลางดึก แจ้งข้อหาหนัก ขัดขืน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลบหนี
นี่แหละคือระบอบประยุทธ์ ทำผิดไม่เคยรับผิด โทษคนนั้นคนนี้ ด่าเก่ง ตั้งตนเป็นบิดา เป็นผู้มีพระคุณต่อประชาชน ทำรัฐประหารกู้ชาติ พารอดตายจากโควิด ใครวิพากษ์วิจารณ์มีความผิด เป็นไอ้พวกชังชาติ
