ท่ามกลางมาตรการเข้มทางการเมืองตาม”แผนกรกฎ 52″มีเสียง ตอบโต้จากพรรคเพื่อไทยและนปช.คนเสื้อแดงเบาบางอย่างยิ่ง
พรรคเพื่อไทยมี”แถลงการณ์”แล้วก็เงียบ
ทั้งมิได้เป็นแถลงการณ์อันสัมพันธ์กับคดีโครงการรับจำนำข้าวโดยตรง
หากเป็นเรื่องคุกคามการแสดงออกในทางการเมือง
อาจครอบคลุมไปยัง นายวัฒนา เมืองสุข และ นายพิชัย นริพทะพันธุ์
รวมถึง”สื่อ”อย่าง นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ด้วย
แต่ภายใน “แถลงการณ์” แทบไม่มีอะไรยึดโยงอยู่กับปรากฎการณ์ให้”กำลังใจ”ในวันที่ 25 สิงหาคม เลย
ยิ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยิ่งเงียบ
อาจเป็นเพราะ “พีซทีวี” อันเป็นกระบอกเสียงของนปช.ก็ถูกมาตร การจาก “กสทช.” ตัดฉึบ
“จอดำ”เป็นเวลา 30 วัน
อาจเป็นเพราะมีการเรียกแท็กซี่และผู้ประกอบการรถโดยสารและรถตู้จำนวน 21 คันไป สน.ทุ่งสองห้อง
ลงเอยด้วยการปรับคันละ 50,000 บาท
ผลสะเทือนก็คือ บรรดาผู้ประกอบการรถตู้ที่ลำปางได้รับการบุกเข้าเยือนของ “กกล.รส.ภาค 3″อย่างพร้อมเพรียงกัน
นำไปสู่การคืนเงิน”มัดจำ”อย่างเป็นเอกภาพ
ยิ่งหนังสือด่วนมากจาก “สตง.” ส่งตรงถึงกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม
ยิ่งทำให้ “อปท.” มิอาจเดินทางไป”ดูงาน”ได้
ความเงียบอันเกิดขึ้นของพรรคเพื่อไทยและของนปช.คนเสื้อแดงจึงอาจเพราะมิอาจขยับ มิอาจขับเคลื่อน
เนื่องจาก “แผนกรกฎ 52” รุกคืบทุกพื้นที่
ขณะเดียวกัน ความเงียบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงอยู่ในสภาวะ “เงียบ”อย่างแท้จริง
เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร
ยิ่งสดับตรับฟังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำชับให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสอบถามรายละเอียดการเดินทางไปบริเวณหน้าศาล ยิ่งสร้างความอึดอัด คับข้อง
ปากก็บ่ได้ ไอก็บ่ดัง