หากดูจากการเคลื่อนไหวผ่าน 1 กกล.รส. ประสานกับ 1 การสั่งการจากสป.มท. ไปถึงผวจ. นอภ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารอปท.

ก็จะตระหนักในความสำคัญของ “25 สิงหาคม”

เพราะว่ากกล.รส. หากมองผ่านกองทัพภาค 4 กองทัพก็จะครอบคลุมและสัมพันธ์กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)

นี่เป็นเรื่องของ “ทหาร”

ขณะเดียวกัน คำสั่งการจากปลัดกระทรวงมหาดไทยไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ก็ครอบคลุมไปถึง นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

นี่เป็นเรื่องของ “พลเรือน”

จากนั้นก็เจาะทะลุไปยัง “แผนกรกฎ 52” อันขับเคลื่อนโดยสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ

เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม

ไม่เพียงแต่จะ “ป้องปราม”ด้วยการส่ง”หมายเรียก”ให้กับ นายวัฒนา เมืองสุข ไปรับทราบข้อกล่าวหา

หากเจาะเฉพาะไปยัง 21 รถตู้ รถโดยสาร

ผลก็คือ เจ้าของรถตู้ที่วิ่งออกนอกเส้นทางถูกปรับรายละ 50,000 บาทถ้วนหน้า

ไม่มีใครกล้า”รับจ้าง” นำ”มวลชน”มาอีก

ไม่ว่าในพื้นที่ภาคเหนือ ไม่ว่าในพื่นที่ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ ล้วนใส่เกียร์ถอยหลัง คืนเงินมัดจำให้อย่างพร้อมเพรียงกัน

ทั้งหมดนี้เป็น”มาตรการ” จาก”ตำรวจ”

เมื่อต่อภาพแต่ละภาพจาก พลเรือน ทหาร ตำรวจ เข้ามาให้เป็นภาพเดียวกัน

ก็มองเห็นโครงสร้าง “พตท.”

มิใช่โครงสร้าง”พันตำรวจโท” หากเป็นโครงสร้างของ “พลเรือน ตำรวจ ทหาร” ที่ พล.อ.สายหยุด เกิดผล เป็นเจ้าของไอเดีย ในยุคแห่งการปราบปราม”คอมมิวนิสต์”

เพียงแต่เป้าหมายในวันที่ 25 สิงหาคม มิได้เป็นป่าเขา

หากเป็นเป้าหมายเดียวเท่านั้น คือ สกัดและป้องปรามมิให้มีการเดินทางไปบริเวณหน้าศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ไม่ต้องการให้”กำลังใจ”หลั่งไหลไปรวมตัวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน