มาถึงเวลาปัจจุบัน ผลการอ่านคำพิพากษาในคดีที่ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องร้องน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีความบกพร่องในการบริหารนโยบายจำนำข้าว คงจะเป็นที่รับทราบกันทั่วไป
เนื้อหาของคำพิพากษาจะเป็นอย่างไรนั้นเป็นประเด็นหนึ่ง ในขณะที่ผลทางการเมืองจะตามติดมาอย่างไร ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มี ผู้แสดงความห่วงใย
เพราะไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาเป็นอย่างไร ย่อมมีคนกลุ่มหนึ่งพอใจและอีกกลุ่มหนึ่งไม่พอใจ
ที่คนจำนวนไม่น้อยมีความกังวลก็คือ เมื่อไม่พอใจแล้ว จะแสดงออกมาในรูปแบบใด
รวมไปถึงจะเป็นเชื้อปะทุที่นำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่
อย่างไรก็ดีความกังวลนี้อาจจะหมดหรือลดลงไปได้ หากทั้งฝ่ายที่พอใจและไม่พอใจผลของการพิจารณา จะใช้สติยับยั้งชั่งใจ และศึกษาคำพิพากษาอย่างละเอียดรอบคอบในเบื้องต้น
เพราะในคดีที่ส่งผลกระทบกว้างขวาง และอยู่ในความสนใจของสังคมนั้น คำพิพากษาย่อมครอบคลุมทั้งในแง่ข้อกฎหมายและ ข้อเท็จจริง และแสดงเหตุผลอย่างชัดเจน ไม่ว่าคำตัดสินจะออกมาในแง่ไหน
นอกจากนั้นแล้ว ในขั้นตอนของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยังเปิดโอกาสให้คู่ความสามารถอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาในแผนกคดีอาญานักการเมืองได้อีกด้วย
ขั้นตอนของคดีจึงยังไม่จบแต่เพียงนี้
สิ่งที่สังคมพึงตระหนักอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อผลของการพิจารณาออกมาเป็นอย่างไร การวิพากษ์วิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นต่อเนื่องตามมานั้น ควรจะเป็นการใช้เหตุผลข้อมูลข้อเท็จจริง
ไม่แสดงออกในทางยั่วยุ ท้าทาย หรือปลุกเร้าให้อีกฝ่ายซึ่งมีความไม่พอใจเป็นทุนเดิม เกิดอารมณ์ความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ อันจะนำไปสู่การตอบโต้ที่เพิ่มระดับของอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้น
การใช้สติยับยั้งชั่งใจในช่วงเวลาของการเผชิญหน้าหรือสถานการณ์ใกล้ถึงจุดวิกฤตนั้น สามารถช่วยยับยั้งมิให้เกิดความสูญเสียขึ้นได้
ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับความเสี่ยงที่ประเมินไม่ได้ ยิ่งจะต้องกุมสติให้มั่น
