พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จสวรรคต แล้ว เมื่อเวลา 15 นาฬิกา 52 นาที วันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี พสกนิกรไทยสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ร่ำไห้กันระงมทั่วทั้งแผ่นดิน บรรดาผู้นำประเทศต่างๆ ทั่วโลกส่งสาร ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

29919

ร่ำไห้ทั่วไทย‘ในหลวง’เสด็จสวรรคต

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เป็นวันสูญเสียครั้งใหญ่หลวงของพสกนิกร ประชาชนชาวไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างร่ำไห้ระงมกันทั่วทั้งแผ่นดิน โดยเมื่อเวลา 18.47 น. วันที่ 13 ต.ค.2559 สำนักพระราชวังประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤ บดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินไปประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2557 ตามที่สำนักพระราชวังได้แถลงให้ทราบเป็นระยะแล้วนั้น

แม้คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดจนสุดความสามารถ แต่พระอาการประชวรหาคลายไม่ ได้ทรุดหนักลงตามลำดับ ถึงวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 เวลา 15 นาฬิกา 52 นาที เสด็จสวรรคต ณ โรงพยาบาลศิริราช ด้วยพระอาการสงบ สิริพระชนมพรรษาปีที่ 89 ทรงครองราชสมบัติได้ 70 ปี

201610131914178-20030315183434

พสกนิกรโศกสลด-น้ำตานอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ประชาชนที่มารวมตัวกันอยู่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระรูปหล่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ประดิษฐาน ณ ศาลาศิริราช 100 ปี ภายหลังจากที่ได้รับทราบประกาศสำนักพระราชวัง เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ต่างพากันร่ำไห้ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง บางคนถึงกับเป็นลมด้วยความเสียใจ จากนั้นเหล่าพสกนิกรต่างร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีพร้อมน้ำตา และเปล่งเสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องทั่วทั้งโรงพยาบาลศิริราช

นายกฯ แถลงการณ์สูญเสีย

ต่อมาเวลา 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยที่อยู่ในราชอาณาจักร และในต่างประเทศทั่วโลกทุกท่าน วันที่ชาวไทยทั้งปวงไม่ต้องการแม้แต่จะนึกคิด และไม่ปรารถนาแม้แต่จะได้ยินก็มาถึง เมื่อสำนักพระราชวังได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดีจักรีนฤ บดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคตแล้ว ในวันนี้ ณ โรงพยาบาลศิริราช

ถือว่าเป็นการสูญเสีย และความวิปโยค ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ นับแต่การเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 8 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคนได้ติดตามข่าวสาร และรับทราบมาเป็นลำดับว่า ในห้วงหลายปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวร และได้เสด็จฯไปประทับที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นระยะ เมื่อพระอาการบรรเทาลงก็จะทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามปกติด้วยพระวิริยอุตสาหะ เพื่อความผาสุกของพสกนิกร

13ตุลาฯอยู่ในความทรงจำ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด พระอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ยังความปลาบปลื้มแก่ประชาชนคนไทยทั้งชาติ แต่ในที่สุดพระอาการประชวรหาคลายไม่ ประกอบกับพระชนมพรรษามาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต พระชนมพรรษา ปีที่ 89 เสด็จดำรงสิริราชสมบัติ 70 พรรษา วันที่ 13 ตุลาคม จะเป็นวันที่อยู่ในความทรงจำของประชาชนชาวไทยตลอดไปนานแสนนาน ดุจวันปิยมหาราช 23 ตุลาคม

นายกฯ แถลงต่อว่า พี่น้องที่เคารพทั้งหลาย ระยะเวลา 70 ปี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เริ่มต้นขึ้นภายหลังจากที่มหาสงครามโลกเพิ่งสิ้นสุดลง ประเทศชาติกำลังฟื้นตัวจากภัยสงคราม ประชาชนเปี่ยมด้วยความหวัง เมื่อประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ครองราชย์เป็นผู้นำ เปลี่ยนความท้อแท้ของผู้คนกลายเป็นความแน่วแน่ มั่นคง องอาจที่จะยืนหยัดต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ

70ปีครองแผ่นดินโดยธรรม

ตลอดรัชสมัยเป็นช่วงเวลาที่มีการพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทรงเป็นกษัตริย์ผู้เป็นที่รักเทิดทูน ทรงเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ นับเป็น 70 ปี ที่ทรงครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามโดยแท้ บัดนี้ 70 ปี ในรัชสมัยของสมเด็จพระภัทรมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่งของปวงชนชาวไทยได้สิ้นสุดลงแล้ว พระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยมากมาย ล้นพ้นหาที่สุดมิได้มากเพียงใด ความวิปโยคอาลัยของพสกนิกรชาวไทย ก็มากมายท่วมท้นหาที่สุดมิได้เพียงนั้น

รัฐบาลขอเชิญชวนให้เราทุกคนร่วมกันตั้งจิตภาวนาตามศาสนาที่ทุกท่านนับถือ ดังที่เราเคยร่วมกันภาวนาถวายพระพร และอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพ นับถือให้อภิบาลคุ้มครองตลอดเวลาที่ทรงพระประชวร เพื่ออธิษฐานภาวนาขอให้ดวงพระวิญญาณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สถิตในสรวงสวรรค์ และทรงอภิบาลคุ้มครองราชอาณาจักรไทย ประชาชนชาวไทยผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ ให้มีความสงบสุขและความสันติสุข ดุจดังที่ประเทศไทยและประชาชนชาวไทยมีมาโดยตลอดภายใต้ร่มพระบารมียาวนาน 70 ปี

สืบสานพระราชปณิธาน

พล.อ.ประยุทธ์แถลงต่อว่า พี่น้องประชาชนที่เคารพ ถึงแม้เราจะอยู่ในยามทุกข์โศกน้ำตานองหน้าทั่วกันเพียงใด ประเทศไทยอันเป็นที่รักของพวกเรา และของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ต้องดำรงต่อไป อย่าให้การเสด็จสวรรคตครั้งนี้ ทำให้พระราชปณิธานที่จะเห็นราชอาณาจักรของพระองค์มีความเจริญรุ่งเรือง พสกนิกรมีความผาสุกสวัสดี มีเมตตาและไมตรีต่อกัน ต้องหยุดชะงักลง การจะแสดงความจงรักภักดี และความอาลัยที่ดีที่สุด คือ เจริญรอยตาม พระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธาน ที่จะรักษาเอกราชอธิปไตย ความสมบูรณ์พูนสุข และความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง ตลอดจนการปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส ที่เคยพระราชทานไว้

ภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการในบัดนี้มี 2 ประการ คือ การดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และ ตามกฎมณเฑียรบาล ว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช 2467 ตลอดจนตามราชประเพณีในส่วนของการสืบราชสันตติวงศ์ ซึ่งสอดคล้องต้องกัน เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สถาปนาพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลไว้แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 จากนั้นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ช่วยกันรักษาแผ่นดินของพ่อ

อีกประการหนึ่ง คือการเตรียมงานพระบรมศพในส่วนของรัฐบาล และประชาชนให้สมพระเกียรติยศ และสมกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทย ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทั้งนี้การดำเนินการทั้ง 2 ประการนี้ รัฐบาลจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะ ต่อไป ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายและราชประเพณี รัฐบาลจึงขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายรับฟังข่าวสารอย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานราชการ อย่าเชื่อข่าวลือที่ไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง

พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่รักทุกท่านแต่งกายถวายความอาลัยเป็นเวลาหนึ่งปี สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน และทุกภาคส่วน ควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน ทั้งนี้ ท่านทั้งหลายอาจเข้าร่วมพิธี หรือจัดกิจกรรมทางศาสนาของตน ถวายเป็นพระราชกุศล หรือจัดเป็นพระบรมราชานุสรณ์ อีกทั้งควรใช้โอกาสนี้ ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพราะเราทุกคนต่างก็มีหัวอกเดียวกัน เพราะมีพ่อของแผ่นดินร่วมกัน และโปรดช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้ใดฉวยโอกาสแทรกเข้ามาก่อความ ขัดแย้ง จนกลายเป็นความวุ่นวาย ขอพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ด้วยการรักษาแผ่นดินของพ่อ ด้วยความรัก และความสามัคคีตลอดไป

นายกฯ แถลงในตอนท้ายว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งหลาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคตแล้ว ขอพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลใหม่ ทรงพระเจริญ

พระราชพิธีสรงน้ำพระบรมศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากประชาชนที่มาร่วมสวดมนต์ทราบประกาศแถลงการณ์ต่างพากันร้องร่ำไห้ เสียงร้องระงมด้วยความโศกเศร้าเสียใจของพสกนิกรดังไปทั่วโรงพยาบาลศิริราช จากนั้นทั้งหมดลุกขึ้นยืนเปล่งเสียงทรงพระเจริญและร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนทยอยเดินทางกลับด้วยสีหน้าเศร้าหมอง บางส่วนยังรอส่งเสด็จครั้งสุดท้ายอยู่บริเวณลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ทั้งนี้มีประชาชนบางคนเศร้าเสียใจอย่างหนักจนเป็นลมหลายสิบราย เจ้าหน้าที่ต้องนำเปลมาหามเพื่อนำไปปฐมพยาบาล

ค่ำวันเดียวกัน สำนักพระราชวังเผยแพร่หมายกำหนดการว่า ในเวลา 17.00 น. วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร จะเสด็จฯทรงประกอบพระราชพิธีสรงน้ำพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ณ พระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

สื่อต่างประเทศสดุดีในหลวง

วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศ เอพี เอเอฟพี และบีบีซีร่วมรายงานข่าวการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยยกย่องว่าทรงเป็นบิดาของปวงชนชาวไทย ผู้มีความอ้อนน้อมถ่อมตน และมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวมาตลอด 7 ทศวรรษที่ผ่านมา แม้ประเทศชาติจะเผชิญกับความขัดแย้งทางการเมืองหลายครั้ง แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจ และความสามัคคีของพสกนิกร ตั้งแต่สมัยสงครามเย็นที่ประเทศเพื่อนบ้านโดยรอบของไทยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของแนวคิดคอมมิวนิสต์

ในช่วงการปกครองของพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระจริยวัตรอ่อนโยน และตรัสด้วยความนุ่มนวล ทรงมีอิทธิพลและได้รับความจงรักภักดีจากประชาชนอย่างล้นหลาม พระองค์ทรงสามารถระงับความพยายามในการปฏิวัติ และการก่อกบฏด้วยพระราชดำรัสเพียงไม่กี่คำ หลายคนเทิดทูนพระองค์เป็นเสมือนพระโพธิสัตว์ ซึ่งเลื่อนการนิพพานออกไปเพื่อช่วยเหลือมนุษยชาติ แม้ทรงเป็นประมุขของประเทศ แต่กลับไม่ถือพระองค์ เสด็จฯ ไปยังหมู่บ้านในชนบทที่ห่างไกล เพื่อแก้ปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน ตั้งแต่สร้างแหล่งน้ำไปจนถึงแก้วิกฤตขาดแคลนอาหาร และความปรองดองของพสกนิกร

‘อียู’ส่งสารแสดงความเสียใจ

ส่วนนายเฆซุส มิเกล ซันส์ เอกอัครราชทูตและหัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ระบุในสารแสดงความเสียใจว่า ตลอดระยะเวลาที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทย ได้สัมผัสถึงความรักต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จากหัวใจของปวงชนชาวไทยทุกท่าน

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงมีพระราชกรณียกิจนานัปการ ก่อให้เกิดการพัฒนาและพลิกฟื้นชีวิตของชาวไทยนับล้านคนในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จะทรงสถิตอยู่ในหัวใจของประชาชนทุกคนสืบไป

ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างหาที่สุดมิได้ และขอแสดงความเสียใจสำหรับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทยต่อประชาชนชาวไทยทุกท่านมา ณ ที่นี้

‘สิงคโปร์’เสียใจอย่างสุดซึ้ง

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ ส่งสารแสดงความเสียใจถึงประเทศไทยว่า รัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสิงคโปร์รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อทราบว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช แห่งราชอาณาจักรไทย เสด็จสวรรคตแล้ว รัฐบาลและประชาชนสิงคโปร์แสดงความเสียใจต่อพระราชวงศ์จักรี รัฐบาล และประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทย

สารระบุว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่โดดเด่นและที่น่านับถืออย่างลึกซึ้ง ตลอดการทรงครองราชย์อย่างยาวนาน พระองค์ทรงงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้ประชาชนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พระองค์ยังทรงมีคุณูปการอย่างยิ่งใหญ่ต่อมิตรภาพอย่างยั่งยืนระหว่างไทยกับสิงคโปร์ พระองค์จะทรงเป็นที่ระลึกถึงและเคารพสักการะทุกหนแห่ง สำหรับการอุทิศเพื่อประชาชนของพระองค์

‘บันคีมุน-ยูเอ็น’แถลงเสียใจ

ด้านนายบัน คีมุน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวผ่านแถลงการขอแสดงความเสียใจ และว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงทุ่มเทเพื่อประเทศชาติมาอย่างยาวนาน ทรงเป็นผู้นำที่ทำให้ประชาชนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทรงได้รับความจงรักภักดีและความเคารพยิ่งจากพสกนิกรของพระองค์ ขณะที่พระราชกรณียกิจและโครงการในพระราชดำรินั้น สหประชาชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ในปี 2549 ข้าพเจ้าในฐานะเลขาธิการสหประชาชาติ มีความหวังว่าประเทศไทยจะยกย่องพระราชกรณียกิจ และพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ซึ่งพระองค์ทรงเชื่อมั่นในค่านิยมสากล และเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชน

‘กษัตริย์จิกมี-ภูฏาน’ทรงโทมนัส

ขณะที่เฟซบุ๊กเพจของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งภูฏาน ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงทราบข่าวการสวรรคตด้วยความโทมนัสอย่างเหลือคณานับ โดยสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก รวมไปถึงพระราชบิดา และสมาชิกพระราชวงศ์ ทรงนำคณะพระสงฆ์ ข้าราชการระดับสูง และประชาชนชาวไทยในภูฏาน จุดเทียนและสวดมนต์ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ที่วัดทาชิ โชซอง

นอกจากนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ยังมีพระราชบัญชาให้จัดพิธีสวดมนต์เป็นกรณีพิเศษและจุดเทียน ณ วัดต่างๆ ทั่วประเทศภูฏานอีกด้วย และในวันที่ 14 ต.ค. จะมีพิธีไว้อาลัยที่ประเทศภูฏาน ลดธงชาติครึ่งเสา และปิดโรงเรียนและสำนักงานต่างๆ เพื่อให้ประชาชนไปร่วมสวดมนต์

‘อังกฤษ-ไอร์แลนด์’ต่างอาลัย

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงพระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนชาวไทย ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ พร้อมยกย่องว่าพระองค์ทรงปกครองประเทศไทยด้วยความทุ่มเท และทรงมีสายพระเนตรอันกว้างไกล พระองค์จะทรงอยู่ในห้วงความทรงจำและเป็นที่ระลึกถึงเสมอ

นายไมเคิล ดี. ฮิกกินส์ ประธานาธิบดีไอร์แลนด์ กล่าวแสดงความเสียใจผ่านเว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีว่า ในนามของประชาชนไอร์แลนด์ ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจต่อประชาชนชาวไทยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จสวรรคต โลกสูญเสียทั้งประมุขแห่งรัฐที่ปกครองยาวนานที่สุดในโลก และรัฐบุรุษที่มุ่งมั่นอย่างยิ่งเพื่อความสงบสุขและการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ข้าพเจ้าขอแสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างสุดซึ้งถึงสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนชาวไทย

‘สวีเดน-ฟินแลนด์’เศร้าใจ

นายกรัฐมนตรีสเตฟาน ลอฟเว่น ผู้นำสวีเดน กล่าวผ่านสำนักข่าวทีทีนิวส์ ว่าขอแสดงความเสียใจไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ และประชาชนชาวไทยทุกคน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงมีความหมายต่อชาวไทยอย่างหาที่เปรียบมิได้ และเมื่ออยู่ในประเทศไทยไม่ว่าใครก็สามารถสัมผัสได้ถึงความจงรักภักดีที่ชาวไทยมีต่อพระองค์

ขณะที่นายติโม โซยนี รมว.ต่างประเทศฟินแลนด์ โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า ข้าพเจ้ารู้สึกเศร้าใจอย่างยิ่งยวดที่ได้รับทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนชาวไทยทุกคน

นายกฯญี่ปุ่นแถลงยกย่องสดุดี

ส่วนนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวแสดงความเสียใจต่อพระบรมวงศานุวงศ์และประชาชนชาวไทยว่า ในนามของรัฐบาลและประชาชนชาวญี่ปุ่น ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างถึงที่สุด และจะระลึกถึงพระองค์ผู้ทรงมีพรสวรรค์และความอ่อนโยน พร้อมกล่าวยกย่องว่า พระองค์ทรงเป็นผู้นำจิตวิญญาณของคนไทย ทรงพัฒนาและยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชน ประชาชนชาวญี่ปุ่นทุกคนจะระลึกถึงคุณูปการมหาศาลของพระองค์ในฐานะมิตรภาพอย่างแน่นแฟ้นระหว่าง 2 ประเทศ

ฟิลิปปินส์-มาเลย์ร่วมไว้ทุกข์

ส่วนนายเออร์เนสโต อเบลลา โฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ระบุผ่านแถลงการณ์ว่านายร็อดริโก ดูแตร์เต ผู้นำ และประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งถึงพระบรมวงศานุวงศ์ ต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ พระประมุขผู้ทรงอยู่เบื้องหลังความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย

นายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนชาวไทย ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นที่เคารพสักการะและมีคุณูปการต่อประเทศไทยและภูมิภาคอื่นเกินกว่าที่จะบรรยายเป็นคำพูดได้ เราขอร่วมไว้ทุข์กับประชาชนชาวไทยด้วย

‘โอบามา’ส่งสาส์นเสียใจ

วันเดียวกัน นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งสาส์นแสดงความเสียใจมีใจความว่า ในนามของประชาชนชาวอเมริกัน ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานกราบบังคมทูลแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ และขอแสดงความเสียใจยิ่งต่อพสกนิกรชาวไทย ในการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ทรงเป็นมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐอเมริกา และทรงเป็นพันธมิตรที่ทรงค่ายิ่งของประธานาธิบดีสหรัฐหลายคน ข้าพระพุทธเจ้าได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้าฯเมื่อคราวเยือนประเทศไทยในปี พ.ศ.2555 ข้าพระพุทธเจ้ายังรำลึกได้ถึงพระราชจริยวัตรอันงดงาม และนํ้าพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยความรักความเมตตาที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่เคารพรักยิ่งของปวงชนชาวไทย ทั้งยังทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่ได้อาศัยใต้ร่มพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานอย่างทรงไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการพัฒนาบ้านเมือง ทรงอุทิศพระองค์ด้วยความแน่วแน่เพื่อยกมาตรฐานความเป็นอยู่ของราษฎร ด้วยพระปรีชาสามารถด้านการริเริ่มสร้างสรรค์ตลอดจนทรงใฝ่พระทัยในนวัตกรรม พระองค์ได้ทรงคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเป็นที่ยกย่องไปทั่วโลก น้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยโดยเสมอมาจะเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ชนรุ่นหลังจักเทิดทูนสืบต่อไป ข้าพระพุทธเจ้าและประชาชนชาวอเมริกันขอยืนเคียงข้าง พี่น้องชาวไทยร่วมอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดชฯ

‘ปูติน’แสดงความเสียใจ

ด้านนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ส่งสาส์นแสดงความเสียใจผ่านโทรเลข ทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ใจความว่า ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งยวดในด้านเศรษฐกิจและมีบทบาทในเวทีโลก พระองค์ทรงได้รับความรักจากใจคนไทยและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในต่างประเทศตลอดระยะเวลาการครองราชย์หลายทศวรรษ รัสเซียจะระลึกถึงพระองค์ที่ทรงเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน