ถึงแม้จะมีการประโคมข่าว”คาร์บอมบ์”อย่างครึกโครมตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม แต่มาถึงวันที่ 14 ตุลาคม

ข่าว”คาร์บอมบ์” คืบหน้าไม่มากนัก

ปฏิบัติการกวาดล้างและจับกุมโดยพลันในวันที่ 11 สิงหาคม พุ่งเป้าไปยัง 3 จุดใหญ่

1 เขตห้วยขวาง 1 เขตวังทองหลาง

2 เขตนี้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเป้าหมายใหญ่ คือ บริเวณย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง

จับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 8 ราย

และอีกจุด 1 ซึ่งสำคัญคือในพื้นที่ของจังหวัดสมุทรปราการ จับกุมได้ 1 คน

การจับกุม 8 รายยังไม่มีรายละเอียดมากนัก

แต่การจับกุม 1 รายที่จังหวัดสมุทรปราการมีความเด่นชัดว่าเป็นหนุ่มใหญ่ชาวอ.รามัน จ.ยะลา

แต่แล้ว”ความจริง”ก็เริ่ม”คลี่ตัว”ออกมา

เป็นการคลี่ตัวด้วยความไม่แน่ใจว่า ทั้ง 9 คนนี้จะเกี่ยวกับกรณีของ “คาร์บอมบ์” 3 จุดระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคม หรือไม่

เพราะ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 บอกว่า

“ส่วนใหญ่มีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดประเภทที่ 5(กระท่อม) ยังไม่พบความผิดเกี่ยวกับปืนหรือผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับความมั่นคง”

เช่นเดียวกับกรณีของหนุ่มใหญ่ที่ถูกจับที่จังหวัดสมุทรปราการ
กองบังคับการตำรวจ จ.สมุทรปราการระบุว่า

“การสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเคยมีประวัติเกี่ยวกับกลุ่มเคลื่อนไหวของกลุ่มวัยรุ่นภาคใต้ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง อาชีพเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือ”

จุดหมายปลายทางของ 9 คนนี้อยู่ที่ใด

แถลงล่าสุดจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ด้านความมั่นคง ผู้รับผิดชอบคดี”คาร์บอมบ์”

ให้”ข้อมูล”มากยิ่งขึ้น

“เจ้าหน้าที่ทหารได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้กว่า 10 ราย 1 ในนั้นมีชาวยะลาที่ปรากฏเป็นข่าวก่อนหน้านี้ แต่ไม่ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยกลุ่มนี้เป็นคนในพื้นที่ใด และมีความเชื่อมโยงกับเหตุระเบิดใน 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบนหรือไม่

“การสอบสวนขึ้นอยู่กับทหารว่าจะดำเนินการอย่างไร”

เป็นอันแน่ชัดว่าการจับกุมตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 10 กว่าราย

มิใช่ 8 คนจากหน้ารามคำแหง มิใช่ 1 คนจากปากน้ำ

เป็นอันแน่ชัดว่า ทั้ง 10 กว่ารายนี้ล้วนถูกควบคุมตัวไปที่มณฑลทหารบกที่ 11 และอยู่ภายใต้การสอบสวนของ”ทหาร”

เท่ากับยืนยันว่า กรณี”คาร์บอมบ์”มิได้เป็นเรื่องของ”ตำรวจ” หากแต่เป็นเรื่องของ”ทหาร”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน