มีความคึกคักเป็นอย่างมากหลังจากรู้ตัว พ.ต.อ.ระดับรองผู้บังคับ การที่มีส่วนพา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หลบหนี
คึกคักในระดับที่โยงไปยัง “พล.ต.ท.”
คึกคักในระดับที่โยงไปยัง “พล.ต.อ.”
แต่พลันที่มี “คำชี้แนะ”มาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำ ชับว่า
“ต้องรอผลการสืบสวนให้ชัดเจน”
เจตนาก็คือ ต้องการติด “ดิส เบรก” ไม่ให้เกิดอาการ “มโน” ในแบบที่ระบุว่าการเดินทางไปกรุงลอนดอนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีเงื่อนงำ
เงื่อนงำอันโยงไปยัง นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ข้อดีอย่างยิ่งจากการพบตัวนายตำรวจระดับ “รองผู้บังคับการ” คือ การตัด “คัทเอาต์”
ดังที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระบุ
“รัฐบาลยืนยันถึงความโปร่งใสและไม่เคยเกี่ยวข้องกับการหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่และกระบวนการยุติธรรม”
ขณะเดียวกัน กระบวนการ”คัตเอาต์”ก็มิได้มีเพียงคสช.และรัฐบาลเท่านั้น
หากน่าจะ “คัตเอาต์” ไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้วย
เพราะในที่สุดแม้การตระเตรียมรถคัมรีสีเทาจะมากด้วยเงื่อนงำอันซับซ้อน แต่”หญิงสาว”ที่สวมแมสก์เมื่อออกจากรถคัมรีก็หายไปกับรถกระบะพร้อมชายสูงประมาณ 180 ซม.
เป็นใครก็ไม่รู้ พาไปไหนก็ไม่รู้
กรณีอันเกิดขึ้นตาม”หมายจับ”ของศาลเมื่อตอนสายของวันที่ 25 สิงหาคม ที่เหมือนกับมีความคืบหน้า
แต่ก็เป็นความคืบหน้าแบบย้อนกลับที่เดิม
เป็นที่เดิมจากบ้านพักในซอยโยธินพัฒนาและไปจบลงในความลึกลับดำมืดบริเวณชายแดนอรัญประเทศ สระแก้ว
ต่อจากนั้นไม่อาจตอบได้
ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ไม่ว่าจะเป็น พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ที่ไหนจึงยังไม่มีใครรู้
อยู่ในประเทศ หรืออยู่ต่างประเทศ ก็ยังไม่มีใครตอบได้
