บทบรรณาธิการ
การพบปัญหาในการปฏิบัติจริงจากนโยบายหรือโครงการของรัฐบาลนั้นแม้เป็นเรื่องปกติ แต่กรณีของการแจกบัตรคนจน ทำให้เกิดคำถามถึงการเตรียมการและความพร้อมรับมือกับปัญหาด้วย
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นโครงการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ ตามโครงการลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2560 เป้าหมายคือไปใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าประชารัฐ
ตั้งแต่เปิดโครงการช่วงแรกมีผู้ใช้สิทธิซื้อสินค้าไปแล้วเกิน 100 ล้านบาท แต่เกิดปัญหาขึ้นว่า ประชาชนและร้านธงฟ้าส่วนหนึ่งเปลี่ยนวงเงินซื้อสินค้าเป็นเงินสด
ปัญหาลักษณะนี้หากอยู่ในช่วงเวลาปกติที่มีตัวแทนประชาชนมาอภิปรายกัน น่าจะคาดหมายได้แต่แรกว่าต้องเกิดขึ้น และอาจตั้งเงื่อนไขเพื่อป้องกันไว้ล่วงหน้า
บัตรคนจนที่มี 11 ล้านกว่ารายนั้นทางการระบุว่าแจกไปได้แล้วร้อยละ 70
นอกเหนือจากการทำผิดเงื่อนไขการแลกสินค้าแล้ว ยังมีเรื่องการติดตั้งเครื่องอีดีซีที่ตั้งเป้าจะให้ได้ 18,000 เครื่อง แต่ล่าช้าจำนวนมากเนื่องมาจากขั้นตอนยุ่งยากในการตั้งระบบข้อมูลและการเชื่อมโยงผูกบัญชีธนาคารก่อนการติดตั้ง
ร้านบางแห่งที่ยังไม่มีเครื่องยึดบัตรสวัสดิการของผู้มีรายได้น้อยไว้ก่อน
ซึ่งเท่ากับทำผิดเงื่อนไข ทางการต้องตามแก้ไขด้วยการส่งเจ้าหน้าที่ไปเก็บบัตรที่ถูกร้านยึดมาส่งคืนให้เจ้าของ
เป็นอีกปัญหาที่สะท้อนว่าระบบราชการนั้นไม่ได้พร้อมหรือทำงานครอบคลุมได้ทั้งหมด
การแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่รัฐในเบื้องต้นนี้คือการคาดโทษ หากทำผิดเงื่อนไข ผู้ถือบัตรจะถูกตัดสิทธิ์หรือถูกระงับวงเงินในบัตรทันที
ส่วนร้านค้าจะถูกกระทรวงพาณิชย์ถอนออกจากทะเบียนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ และทางกรมบัญชีกลางจะดำเนินการเรียกคืนเครื่องรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ หรืออีดีซี จากเจ้าของร้านทันที
กรณีนี้แม้เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจที่จะจัดการและลงโทษ แต่ขณะเดียวกันก็บ่งบอกว่าผู้ขอรับสิทธินั้นแทบไม่มีอำนาจการต่อรองหรือมีทางเลือกใดๆ
อาจตอกย้ำถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมว่าเป็นคนจนต้องเจียมตัว