กระบวนท่าของเหล่า “นักการเมือง” เหมือนกับว่า “ได้คืบ”แล้วยังจะ “เอาศอก”
เห็นได้ชัดจาก “การเลือกตั้ง”
เห็นได้ชัดจากข้อเสนอ ข้อเรียกร้องให้มี “การปลดล็อก”พรรคการเมืองให้สามารถทำกิจกรรมได้
จึงก่อให้เกิด”ความหงุดหงิด”ตามมา
ไม่ว่าจะสัมผัสได้จากโฆษกระดับ”พล.ท.” ไม่ว่าจะสัมผัสได้จากโฆษกระดับ “พ.อ.”
รวมถึง “นักลากตั้ง” จาก “สนช.”
“นักการเมืองต่างหากเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตัวเองหรือยัง อย่าเสียจริตขอให้รอหน่อย”
เราจะทำตาม”สัญญา” ขอเวลา”อีกไม่นาน”
ความจริง การแสดงออกของเหล่า”นักการเมือง”ก็มิได้”ออฟไซท์”หรือดำเนินไปในแบบ “เสียจริต” แต่อย่างใด
ตรงกันข้าม เป็นไปตามขั้นตอน
เมื่อมีการประกาศและบังคับใช้รัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 6 เมษายน
นั่นคือ สัญญาณ”แรก”สำหรับ”การเลือกตั้ง”
เมื่อมีการประกาศและบังคับใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งและว่าด้วยพรรคการเมือง
นั่นคือ สัญญาณ”สอง”และ”สาม”สำหรับ”การเลือกตั้ง”
ความหมายก็คือ การทำงานร่วมกันระหว่าง “กกต.”กับ”พรรค การเมือง”
เพื่อรอสัญญาณที่”สี่”และสัญญาณที่”ห้า”
อาการของ “นักการเมือง” อาการของ”พรรคการเมือง”จึงมิได้เป็นอาการแห่ง “การเสียจริต”
ตรงกันข้าม เป็น “ความตื่นตัว”
เพราะนับแต่การเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 การเลือกตั้งก็ว่างเว้น
จะเลือกในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ก็ไม่ได้
เพราะมี”กปปส.”ไปสกัด ขัดขวาง ไม่ยอมให้สมัคร ไม่ยอมให้ไปหย่อนบัตร
จึงย่อมกระหายและอยากได้”การเลือกตั้ง”