กรณีสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือ”ด่วนมาก”ถึงทุกหน่วย
งานในสังกัดทุกระดับให้ “สืบสวน” พฤติการณ์ “เชิงลึก”
เกี่ยวกับข้อมูล 1 แกนนำ พร้อมกับ 1 เครือข่าย ที่ออกมา เคลื่อนไหว ชี้นำ ปลุกปั่น พยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้มวลชน เครือข่ายและประชาชนเข้าใจผิด หลงเชื่อ
เนื่องจากมี “เป้าหมายล่วงละเมิดสถาบันและทำลายเสถียร ภาพรัฐบาล รวมทั้งตั้งใจให้การเคลื่อนไหวขยายตัวเป็นวกว้างเพื่อรอโอกาสยกระดับเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาล”
หากฟังจาก พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รองผบ.ตร. ก็เหมือนกับเป็น”การแจ้งหนังสือตามวงรอบ”
เป็นเช่นนั้น จริงหรือ
หากฟังจากคำแถลงหลังการประชุมครม.จาก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด กลับไม่เป็นอย่างนั้น
ฐานะ”โฆษก”ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี-การันตี
เพราะแท้จริงแล้วมาจากการสั่งการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุมครม.
“ปัจจุบันพบว่ามีสถานการณ์เข้าสู่โหมด”การเมือง”
“จะเห็นได้จากปรากฏการณ์หลายเรื่อง มีการใส่ร้ายบิดเบือน การปล่อยข้อมูลข่าวสารเพื่อเป็นเท็จ หรือการพยายามลดความน่าเชื่อถือของตัวบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในรูปแบบต่างๆ
“ต้องยอมรับความจริงว่าบางเรื่องมีข้อมูล บางเรื่องก็ไม่มูล”
ตรงนี้ต่างหากคือรากฐานอย่างแท้จริงอันเป็นที่มาของคำสั่งการด่วนมากจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นี่มิได้เป็น”วงรอบ”อย่างธรรมดา หากแต่”พิเศษ”
พิเศษเพราะไม่เพียงแต่มี “ข่าวลือ” กระหน่ำใส่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.เท่านั้น
หาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็โดน
หาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หรือกระทั่ง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ก็โดนเต็ม
จนต้องมี”มวลชน”ถือดอกไม้เข้าให้”กำลังใจ”
โหมด”การเมือง”ที่ว่าไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย ไม่ได้มาจาก นปช.คนเสื้อแดง
หากมาจาก”พวกเดียวกัน” ที่หงุดหงิด ไม่แฮปปี้