ทั้งๆที่การตรวจจับอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดกลางทุ่งนาแห่งจังหวังฉะเชิงเทรา เป็นเรื่องครึกโครมอย่างยิ่ง
เหตุใด”สังคม”ขานรับอย่างเฉยเมย
ยิ่งเมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นำมาขยายผลในทำนองว่า อาจต้องยื้อเวลา”ปลดล็อก”พรรคการเมืองออกไปอีก
นั่นก็คือ “ใกล้” กับ”วันเลือกตั้ง”
บรรดาขาประจำไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะจากพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่ว่าจะจากพรรคเพื่อไทย
ล้วนออกมาประสานเสียงในทำนอง”ตรูว่าแล้ว”
คำว่า “ตรูว่าแล้ว”ในที่นี้มิได้หมายเพียงความเห็นจาก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ หากแต่ยังหมายถึง “อาวุธสงคราม”
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
คำตอบ 1 เพราะได้ยินชื่อของ “โกตี๋” เพียงแต่ย้ายจากปทุมธานีไปยังฉะเชิงเทราเท่านั้นเอง
มิใช่เพราะเชื่อว่า “โกตี๋ตายแล้ว”
หากแต่อีกคำตอบ 1 ก็คือ ตลอด 3 ปีกว่าหลังรัฐประหารเมื่อ เดือนพฤษภาคม 2557 การควบคุม”เสื้อแดง”ไม่ว่าฮาร์ดคอร์ หรือไม่ฮาร์ดล้วนมากด้วยความเข้ม
แทบจะกระดิกกระเดี้ยอะไรไม่ได้เลย
หากไม่ต้องคดีว่าด้วย”อาวุธสงคราม” ก็อยู่ในข่ายพร้อมจะถูกเรียกเข้าค่ายทหาร”ปรับทัศนคติ”
การเคลื่อนไหวที่มีอยู่ก็มิได้มาจาก”เสื้อแดง”
สังคมจึงขานรับต่อข่าวการจับอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด ในลักษณะเฉยเมย
เป็นไปตามบทสรุป “ตรูว่าแล้ว”
แม้ว่าจากอาวุธสงครามและวัตถุระเบิดจะเป็นเงื่อนไขนำไปสู่การยื้อเวลา”ปลดล็อก”ให้พรรคการเมือง
แต่ถามว่า”นักการเมือง”จะ”เงียบ”หรือไม่
การแสดงออกของ นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ คือคำตอบ การแสดงออกของ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล คือ คำตอบ
หากเอาท่านเหล่านี้มาอ้างเป็นเหตุผล
ความคาดหมายที่ว่าจะไม่มีการปลดล็อกก็คงเป็นเรื่องจริง การเลือกตั้งจะ”ยื้อ”และทอดยาวออกไปอีกก็คงเป็นเรื่องจริง
นั่นก็คือ ไม่มีเลือกตั้งภายในปี 2561
/////////
