เริ่มมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า โรดแม็ป”การเลือกตั้ง”ที่เคยประกาศว่าจะเป็นเดือนพฤศจิกายน 2561
อาจต้อง “เลื่อน”
ความมั่นใจเช่นนี้ไม่เพียงแต่จะมาจากฝ่ายของ”นักการเมือง”
ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทยพัฒนา
ไม่ว่าจะเป็นพรรคเพื่อไทย
หากแม้กระทั่งอดีตกกต.อย่าง นางสดศรี สัตยธรรม ก็ออกมาตั้งข้อสังเกต
ปมเงื่อนอยู่ตรงที่ยังไม่มี”การปลดล็อก”พรรคการเมือง
ผลสะเทือนก็คือ พรรคการเมืองไม่สามารถปฏิบัติตามพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองได้
ตัวอย่างง่ายๆ คือ การแจ้งเรื่อง”สมาชิกพรรค”
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาธิการรักษาการแทนเลขาธิการกกต.ออกมายืนยัน
ทุกอย่างต้องทำภายในวันที่ 5 มกราคม 2561
ขณะเดียวกัน ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกมายืนยันเช่นกันว่า
ไม่สามารถทำได้หากไม่มีการประชุมพรรค
นั่นก็หมายความว่า ทุกพรรคการเมืองจะต้องขอ”ขยาย”เวลาออกไป
อันเท่ากับเป็น “ปัญหา” อย่างเห็นเป็น “รูปธรรม”
เพราะเมื่อไม่สามารถ “ประชุมพรรค” ได้การปฏิบัติตามพรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองก็ย่อมเกิด “อุปสรรค”
การขยายไปเรื่อยๆนั่นแหละคือประเด็น
เชื่อได้เลยว่าปัญหาอันเนื่องมาแต่พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองจะต้องเผยแสดงออกมาอย่างไม่ขาดสาย
เพราะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2560
ยิ่งยื้อเวลาในการปลดล็อกพรรคการเมืองยาวนานออกไปเพียงใด ปัญหาก็จะปรากฏตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นกรอบเอาไว้
ความหมายก็คือ พรป.ว่าด้วยพรรคการเมืองมีรากงอกมาจากรัฐธรรมนูญ
ผลสะเทือนย่อมโยงไปยัง”รัฐธรรมนูญ”แน่นอน
สะท้อนว่ามีอำนาจ”อื่น”เหนือและยิ่งใหญ่กว่า”รัฐธรรมนูญ”