คดีสะเทือนใจคนในสังคมจากโลกโซเชี่ยลล่าสุดนี้เป็นกรณีพ่อแม่จับลูกชายวัย 3 ขวบ ร่วมไลฟ์สดขณะมีเพศสัมพันธ์กันโชว์ในกลุ่มไลน์ลับ

การสอบสวนเบื้องต้นนี้แม่เด็กยอมรับว่าได้ค่าจ้าง 400 บาท ในขณะที่สมาชิกของกลุ่มลับที่จะได้ชมคลิปลักษณะนี้ต้องจ่ายครั้งละ 1,000 บาท

คำถามอันน่าตกตะลึงว่าสังคมไทยเดินมาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องหาคำตอบกันเฉพาะในกลุ่มนักสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา หรือผู้เชี่ยวชาญการศึกษาพฤติกรรมในโลกโซเชี่ยล หรือตำรวจเจ้าของคดีที่ต้องสอบสวน

แต่เป็นเรื่องของทุกคนในสังคมต้องช่วยกันหาคำตอบ พร้อมกับหาแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ในส่วนของการสอบสวนของตำรวจ การรับเงินค่าจ้าง 400 บาท ของพ่อแม่เด็กเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551

อีกทั้งการเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ แม้เป็นกลุ่มลับ เป็นความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550

ปมอันน่าสะเทือนใจว่าเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ถูกกระทำชำเรา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277

อีกทั้งยังเข้าข่ายมีความผิดฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากเด็ก

กรณีนี้แม้ชัดเจนว่าเป็นปัญหาทางสังคมที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจทางออนไลน์ คล้ายกับที่เคยมีคดีหญิงสาวรับเงินว่าจ้างให้แสดงเปลือยผ่านการไลฟ์สดเพื่อเรียกยอดไลก์

แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงสภาพปัญหาทางเศรษฐกิจด้วย โดยเฉพาะการยอมลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีปัจจัยการบีบคั้นทางการเงิน

ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจเชื่อมโยงต่อมาจากปัญหาทางการเมืองอันไม่เป็นปกติ

ทั้งในส่วนที่ส่งผลกระทบต่อเรื่องปากท้อง ไปจนถึงการไม่มีกลไกให้เกิดการเคารพสิทธิเสรีภาพและความเท่าเทียมของมนุษย์อย่างชัดเจน

การที่สังคมไทยมาถึงจุดที่พ่อแม่ล่วงละเมิดลูกตนเองจึงสะท้อนถึงความผิดปกติในทุกด้าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน