การทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เป็นที่จับตาของประชาชนมาตลอด เนื่องจากเกี่ยวเนื่องกับฝ่ายการเมือง รวมไปถึงคณะผู้บริหารประเทศ
ความเป็นอิสระและทำงานอย่างตรงไปตรงมาของป.ป.ช. จึงเป็นที่คาดหมายสูง
เพราะการปราบปรามทุจริตต้องมาควบคู่กับความยุติธรรม และความยุติธรรมย่อมหมายรวมถึงการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับทุกคนทุกฝ่าย
หากการทำหน้าที่ในเรื่องต่างๆ ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรม สิ่งเหล่านี้จะ ส่งผลกระทบต่อการทำงานและความน่าเชื่อถือ ของป.ป.ช.
รวมถึงความเป็นองค์กรอิสระโดยรวม
กรณีที่ยังค้างคาอยู่และมีผลกระทบทางจิตใจต่อผู้สูญเสียในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง คือข้อเรียกร้องให้ป.ป.ช. หยิบยกคดีสลายการชุมนุมปี 2553 ที่ยกคำร้องไปแล้วขึ้นพิจารณาอีกครั้งตามช่องทางกฎหมาย
หลังจากมีกรณีเปรียบเทียบจากคำพิพากษาของศาลในคดีสลายการชุมนุมปี 2551
แต่ข้อร้องเรียนที่อึกทึกนี้กลับยังเงียบงันอยู่ในป.ป.ช.
เมื่อเทียบกับกรณีการเรียกร้องให้ตรวจสอบทรัพย์สินเครื่องประดับมูลค่าสูงของบุคคลในรัฐบาล ซึ่งอยู่ในความสนใจของประชาชน
ยังดีที่มีคำตอบว่าอยู่ในขั้นตอนการทำงานการตรวจสอบตามระเบียบปฏิบัติ
แม้ตัวอย่างทั้งสองเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ล้วนเป็นเรื่องที่จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือ ในการทำงานของป.ป.ช. เช่นเดียวกัน
เป็นความคาดหมายที่ประชาชนจะได้รับ คำอธิบายและชี้แจงอย่างชัดเจนจากป.ป.ช. ในฐานะองค์กรอิสระที่ต้องผดุงให้การใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเท่าเทียม
เพื่อทิศทางการบังคับใช้กฎหมายขององค์กรอิสระ ไม่ว่า ป.ป.ช. กกต. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนฯ หรือศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามระบบ มิใช่ยึดตามตัวบุคคล
แน่นอนว่า ทุกเรื่องไม่ควรมีธงหรือมีคำตอบล่วงหน้า เพียงแต่เมื่อมีข้อสรุป ต้องมีคำอธิบายพร้อมพยานหลักฐาน ให้ทั่วทั้งสังคมได้ความกระจ่างอย่างแท้จริง