คณะบุคคลในรัฐบาลระบุถึงแนวทางในการแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง เพื่อขยายกรอบเวลาในการดำเนินการเรื่องต่างๆ แล้วว่ามีสองทาง ทางหนึ่งคือปลดล็อกพรรคการเมืองให้ทำกิจกรรมได้ และข้อสองคือแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายเวลา

แนวทางแรกนั้นดูเหมือนยังไม่มีวี่แวว เพราะยังคงติดขัดอยู่ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง

ส่วนแนวทางหลัง ว่าด้วยการแก้ไขกฎหมายมี 2 วิธีในการดำเนินงาน หนึ่งคือแก้ไขตามปกติ กรณีนี้จะกระทบเงื่อนไขด้านเวลา เนื่องจากต้องมีกระบวนการรับฟังความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ

วิธีที่สองเป็นไม้ตายที่ระบุว่าเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม คือการแก้ไขด้วยการใช้คำสั่งมาตรา 44

การใช้คำสั่งมาตรา 44 มีมาแล้วในหลายๆ เรื่อง แม้แสดงออกได้ว่าทำเพื่อความรวดเร็วและเด็ดขาด

แต่หากพิจารณาถึงโรดแม็ปว่าด้วยการฟื้นฟูประชาธิปไตยแล้ว มาตรา 44 เป็นเรื่องที่ขัดแย้งอย่างยิ่ง

ความต้องการได้มาซึ่งประชาธิปไตยด้วยวิธีที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่แปลกอย่างยิ่ง

เช่นเดียวกับความต้องการปฏิรูปที่ได้มาจากกลุ่มคนที่ยังปฏิรูปตนเองให้เคารพความเท่าเทียมของประชาชนไม่ได้ ก็เป็นเรื่องประหลาดอย่างยิ่ง

ความแปลกและประหลาดนี้เป็นเรื่องควรทบทวน

แม้มีการคำนวณจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองจะไม่มีผลต่อโรดแม็ปใดๆ เพราะจัดการเลือกตั้งได้ตั้งแต่สองเดือนแรกนับจากประกาศกฎหมายพรรคการเมือง 150 วัน

หากพรรคการเมืองดำเนินการเร็ว จะเหลือเวลาในการทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ เช่น เลือกกรรมการบริหารพรรค หาทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท ฯลฯ

แต่เงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ควรกำหนดให้ชัดเจน และมีเป้าหมาย แสดงเหตุผลให้คนในสังคมร่วมรับทราบ แม้ว่าขณะนี้จะยังไม่มีกลไกการรับฟังตามระบอบประชาธิปไตย

เพื่อแสดงความจริงใจว่า การจัดการเลือกตั้งเป็นภารกิจสำคัญ มีขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามอย่างจริงจัง

ยิ่งเมื่อเป็นเรื่องที่ประชาชนมีส่วนร่วม ต้องเคารพและให้เกียรติประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน