กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.ตร.) สืบสวนสอบสวนการให้งบประมาณโครงการบูรณปฏิสังขรณ์วัด พบว่ามีการทุจริตเป็นจำนวนมาก

ขณะนี้ได้สรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปรามปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาเพื่อชี้มูลแล้วรวม 35 คดี และดำเนินการไต่สวนไปแล้ว 8 คดี ซึ่งกลุ่มที่ถูกร้องเป็นเครือข่ายเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องร้องเรียนกรณีทุจริตลักษณะเดียวกันช่วงปีงบประมาณ 2557-2558 ที่เกิดขึ้นกับวัดต่างๆ ทั่วประเทศอีก 62 วัด

พบว่ามีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

ล่าสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้ชี้มูลความผิดที่ เรียกว่าเงินทอนวัดแล้ว 1 สำนวน เป็นการทุจริตการอนุมัติเงินบูรณปฏิสังขรณ์วัดพนัญเชิง จ.พระ นครศรีอยุธยา รวม 2 ครั้ง จำนวน 20 ล้านบาท

มีอดีตผู้อำนวยการและรองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นตัวการร่วม โดยเรียกเงินโอนคืนจากวัดไปเข้าบัญชี ส่วนตัวและคนใกล้ชิดรวม 13 ล้านบาท

โดยบุคคลทั้ง 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับความผิดต่อหน้าที่ราชการ ทุจริต และความผิดทางวินัยร้ายแรงตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน

สมควรจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา โดยไม่ละเว้นใครใดๆ ทั้งสิ้น

เป็นที่น่าสังเกตว่าการทุจริตที่เกิดขึ้น มีการ กระทำอย่างเป็นขบวนการ อีกทั้งผู้เกี่ยวข้อง ก็เป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน โดย 35 สำนวนคดีอยู่ในการพิจารณาของป.ป.ช.และอีก 62 คดี อยู่ในชั้นการสอบสวนของ บก.ปปป.ตร.

อีกทั้งยังพบว่ามีพระสังฆาธิการระดับ เจ้าคณะอำเภอเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ขณะนี้ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้ว 1 รูป จนต้องลาสิกขา ถูกฝากขังในเรือนจำ และมีข้อมูลว่า พระสังฆา ธิการระดับสูงกว่านี้มีส่วนพัวพันด้วย พนักงานสอบสวนควรเร่งทำความจริงให้ปรากฏ

ปฏิบัติการเหล่านี้ ถือว่าเป็นการชำระสะสางให้พระพุทธศาสนาบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพื่อให้เป็นหลักด้านศีลธรรมในสังคมให้ได้

เป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ และจากนี้ไปไม่ควรมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน