ในที่สุดการใช้มาตรา 44 ขยายเวลาให้พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมตามกรอบเวลาใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ก็เป็นไปตามที่รัฐบาลส่งสัญญาณมาก่อนหน้านี้
ส่วนการปลดล็อกพรรคการเมืองยังต้องรอต่อไปอย่างสอดรับกัน
การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เหล่านี้เหมาะสมหรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องที่ประชาชนไม่อาจวิพากษ์วิจารณ์ได้มาก เนื่องจากประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมที่จะตัดสินใจใดๆ ได้
ไม่ว่าทางการเมือง เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ชุมชน ฯลฯ
เพียงต้องเฝ้ารอการเลือกตั้งที่นานาประเทศรับทราบไว้ว่าเป็นเดือนพฤศจิกายน 2561
ระหว่างการเฝ้ารอการเลือกตั้ง มีการหยิบยกประเด็นมาให้ใคร่ครวญกันว่า ประชาธิปไตยในรูปแบบของสภาผู้แทนฯนั้น อาจหมดสมัยไปแล้ว กลายเป็นยุคประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม
แนวโน้มดังกล่าวถูกระบุว่าปรากฏในประเทศประชาธิปไตยฝั่งตะวันตก
ในข้อเท็จจริง ชาติเหล่านั้นกำลังกระจายอำนาจการมีส่วนร่วมกลับไปสู่ชุมชนใหญ่น้อยที่เคยเป็นมา
เป็นพัฒนาการทางประชาธิปไตยที่ไม่ได้หยุดชะงัก แต่กำลังเรียนรู้วิธีที่เข้าถึงเสียงของประชาชนและเกิดการต่อรองผลประโยชน์อย่างเท่าเทียม
ในขณะที่รูปแบบของสภาผู้แทนฯ ระดับประเทศยังคงมีความสำคัญ และต้องปรับตัวให้ทันกับกระแสของประชาชน
กระแสการเมืองในลักษณะ 2 พรรคการเมืองใหญ่แข่งขันกัน โดยเฉพาะฝ่ายซ้ายกับฝ่ายขวาในชาติตะวันตกในช่วงปี 2560 นี้ สะท้อนว่ากำลังเปลี่ยนไป
ความนิยมเริ่มถูกแบ่งไปที่พรรคการเมืองขนาดรองลงมา ทั้งที่เป็นสายกลาง อย่างกรณีฝรั่งเศส และขวาจัด อย่างในเยอรมนี ออสเตรีย สหรัฐ อเมริกา
ในขณะที่พรรคใหญ่ต้องดิ้นรนปรับตัวและนโยบายต่อไปเพื่อดึงประชาชนกลับมา
ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ จะได้นักการเมืองที่ซื่อสัตย์ ยุติธรรม เข้าถึงจิตใจประชาชนมากน้อยเพียงใด
อย่างน้อยทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับประชาชนตัดสินใจเองโดยไม่ถูกช่วงชิงอำนาจ