พลันที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านจัดการเลือกตั้งออกมาแถลงในเรื่อง “กกต. 4.0”
ว่าด้วยระบบการจัดทำ “ฐานสมาชิกพรรคการเมือง”
ความสงสัยอันมาจาก นายวิษณุ เครืองาม ในเรื่องความสับ สนซับซ้อนในเรื่องสมาชิกพรรคการเมือง
ก็กลายเป็นเรื่อง “เด๊ะ เด๊ะ”
ส่งผลให้บรรดาโฆษกไม่ว่าจะระดับ “พล.ท.” ไม่ว่าจะระดับ”พล.ต.”ที่เคยออกมาเน้นย้ำในเรื่องนี้
กลายเป็นหมดบทบาทและไร้ความหมาย
ยิ่งกว่านั้น ยังก่อให้เกิดข้อสงสัยต่อ”เจตนาการ”ในการออกคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53/2560 ว่าออกมาทำไม
หากไม่ต้องการให้ยุ่งยาก หากไม่ต้องการให้สับสน
ต้องยอมรับว่า นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คร่ำหวอดอยู่ในกระบวน การของ”การเลือกตั้ง”มาอย่างยาวนาน
ตั้งแต่เล่นบท “เอ็นจีโอ” ผ่านสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
ดำรงอยู่ในตำแหน่ง “มือขวา”ให้กับ พล.อ.สายหยุด เกิดผล ใน “องค์กรกลาง”
กระทั่งได้รับเลือกและแต่งตั้งให้เป็น”กกต.”
อาจเกิดอาการเป๋ไปบ้างในสถานการณ์”ชัตดาวน์”เพราะแรง สะเทือนจาก “กปปส.”กระทั่งทำให้การเลือกตั้งล้มเหลวในเดือนกุมภาพันธ์ 2557
นั่นก็รู้ๆกันอยู่ว่าหนีไม่พ้นจาก”พิมพ์เขียว”การเมือง
การยืนยันว่าระบบสมาชิกพรรคผ่านการตรวจสอบอย่างมีมาตรฐานจากกกต.ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2550 มาแล้ว
จึงตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมต้อง”รีเซ็ต”สมาชิกพรรคการเมืองอีก
ถึงแม้ นายวิษณุ เครืองาม จะเชี่ยวชำนาญในเรื่องกฎหมายระดับ ดุษฎีบัณฑิต
แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่รู้เส้นสนกลใน”กกต.”
และก็เช่นเดียวกับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ตลอดจน นายพรเพชร วิชิตชลชัย
นั่นก็คือ ไม่มีประสบการณ์ตรงจากการตั้งพรรคการเมืองและลงเลือกตั้ง
คำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 53/2560 จึงล้วนมาจากสมองก้อนโตของคนที่ไม่เคยรู้รสชาติของพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง
แต่ต้องการจัดแถวพรรคการเมือง จัดแถวการเลือกตั้ง
