เนติวิทย์เขย่าจุฬาฯ
เริ่มจากประเด็นพิพาทในสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่อย่าง “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เมื่อ นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ประธานสภานิสิตฯ เสนอเปิดพื้นที่ให้นิสิตใหม่สามารถยืนเคารพแทนการถวายบังคมแบบหมอบคลานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ 2 รัชกาลได้ รวมทั้งเจรจากับรองอธิการบดีให้เปลี่ยนเป็นยืนโค้งคำนับแล้วเสร็จพิธีแทนหากวันงานมีฝนตก เพื่อป้องกันไม่ให้นิสิตป่วย
เมื่อถึงวันงาน 3 ส.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน นิสิตทุกคนต่างนั่งพับเพียบโดยไม่มีใครยืนรอแสดงความเคารพ กระทั่งฝนเริ่มตกลงมา เนติวิทย์พร้อมพวกจึงเดินออกจากพิธีการอย่างสำรวม แต่มีอาจารย์ชายท่านหนึ่งเดินหุนหันตามไปล็อกคอหนึ่งในนิสิตก่อนจะมีคนมาห้ามเอาไว้ภายหลังรองอธิการบดีแก้ต่างแทนว่าอาจารย์ทำไปเพราะ “ห่วงสวัสดิภาพของเด็ก”
จากเหตุการณ์นี้จุฬาฯ ได้ตัดคะแนนความประพฤติเนติวิทย์ กับพวก ส่งผลให้หมดสถานภาพความเป็นสมาชิกสภานิสิตฯ หลังจากมีโอกาสชื่นชมเข็มประธานสภานิสิตฯ ที่ได้รับในพิธีไหว้ครูได้ไม่ถึง 2 ชั่วโมง
พิษแป๊ะเจี๊ยะยุค4จี
ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ประจำปีนี้คงหนีไม่พ้นกรณีคลิปชายคนหนึ่งนำเงินสด 4 แสนบาท ไปยื่นให้ นายวิโรฒ สำรวล ผอ.ร.ร.สามเสนวิทยาลัย โดยมีรอง ผอ.อีกคนเป็นผู้รับซอง แลกที่นั่งเรียนชั้น ม.1 ซึ่ง นายวิโรฒยอมรับว่าเป็นคนในคลิปจริง แต่ปฏิเสธเรื่องการรับเงิน
ร้อนถึงสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต้องสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ก่อนพบมูลความผิดชัดเจน คือระดมทรัพยากรจากผู้ปกครองระหว่างการรับนักเรียน ซึ่งเป็นช่วงที่ สพฐ.สั่งห้าม และออกใบเสร็จรับเงินให้ย้อนหลัง ซึ่งผิดระเบียบกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเรื่องการรับเงิน
จากผอ.จึงกลายเป็นอดีตผอ. ย้ายไปช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 และถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง
ล่าสุดตัวแทนสมาคมนักเรียนเก่าฯ ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) โดยมี พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศธ.เป็นผู้รับเรื่อง เพื่อติดตามการสอบสวน เนื่องจากเวลาล่วงมา 6 เดือนแล้วยังไม่มีความ คืบหน้า หวั่นเป็นมวยล้มต้มคนดู
ไทยแลนด์แดนกะลา
ควันหลงการแข่งขันฟุตบอลประเพณี จตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 28 ซึ่งเป็น กระแสการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง คือป้ายผ้า 2 ผืนของนักเรียน ร.ร.สวนกุหลาบวิทยาลัยที่เขียนสะท้อนมุมมองและทัศนคติทางการเมืองของพวกเขาไว้อย่าง น่าสนใจว่า “ชาตะ 1.0 มรณะ 4.0” และ “ไทยแลนด์แดนกะลา” หลายฝ่ายชื่นชมที่กล้าคิดกล้าแสดงออกในเรื่องที่เป็นจริง ขณะที่หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเหมาะสม
ก่อนที่หนึ่งในนักเรียนผู้เขียนป้ายจะเฉลยว่า “แดนกะลา” สื่อถึงระบบการศึกษาไทยที่อยู่ในกะลา ไม่ยอมออกรับสิ่งใหม่เข้ามา อยากให้เปลี่ยนวิธีการสอนการปลูกฝังนักเรียน และเน้นเรื่องจรรยาบรรณการสอนของครู ก่อนตัดพ้อคนวิจารณ์ไม่เข้าใจประเด็นภาพรวม หากได้ดูทั้งขบวนจะทราบความหมายทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้ง
2ครูสาวฝันสลาย
ปิดท้ายที่เรื่องชวนปวดเฮดอย่างกรณีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 38 มีคำสั่งเรียก “ครูวัลย์-น.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี” และ “ครูแอน-น.ส.วนาลี ทุนมาก” ไปบรรจุแต่งตั้งเป็นครูผู้ช่วยที่ ร.ร.อุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก
แต่สอนไป 5 เดือนโดยไม่ได้รับเงินเดือน คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตาก (กศจ.) กลับมีมติไม่อนุมัติการบรรจุเนื่องจากรายชื่อหมดอายุการขึ้นบัญชีไปแล้ว รวมทั้งบรรจุไม่ตรงกับสาขาวิชาเอก
ทั้งสองตัดสินใจยื่นฟ้องศาลปกครองพิษณุโลก และร้องขอคืนความเป็นธรรมกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ซึ่ง ก.ค.ศ.ยืนยันจะตรวจสอบกระบวนการทั้งหมดว่าถูกต้องหรือไม่ หากได้ข้อสรุปหรือมีมติเช่นไรก็จะส่งให้กับศาลปกครองพิษณุโลกต่อไป ขณะนี้รมว.ศธ.ก็กำชับให้หามาตรการเยียวยา เพราะไม่ใช่ความผิดของครู แต่ขอให้เป็นไปตามกฎหมาย
ด้านสพฐ.สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง นายมรกต กลัดสอาด ผอ.สพม.เขต 20 (อุดรธานี) ในฐานะอดีตผู้อำนวยการสพม. เขต 38 ก่อนพบออกหนังสือเรียกครูทั้งสองมาบรรจุโดยที่ กศจ.ตาก ยังไม่อนุมัติคำสั่งบรรจุแต่งตั้งจริง แต่ไม่พบทำไปเพื่อหวังผลประโยชน์ จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนายมรกตและผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 – 3 คน ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการสอบสวน
