การจุดประเด็นในหัวข้อประชาธิปไตยไทยนิยมของผู้นำเมื่อวันเด็กปีนี้ได้ผลอย่างยิ่ง ในแง่ที่ทำให้เกิดการวิเคราะห์วิจารณ์
เพราะสูตรไทยนิยมคล้ายกับการสร้างทฤษฎีหรือแนวทางใหม่ให้กับโลกประชาธิปไตย
การจะสร้างสูตรเช่นนั้นได้หมายความว่าประชาชนคนในประเทศจะต้องมีศักยภาพและความมุ่งมั่นที่จะจัดสร้างสิ่งแวดล้อมส่งเสริมหลักการประชาธิปไตยไว้ได้อย่างมั่นคงและมีพัฒนาการ
ผลจากการใช้สูตรไทยนิยมต้องทำให้ประชาชนมีโอกาสและความเท่าเทียมที่จะแสวงหาความสุขด้วยการเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย
ไม่มีใครถูกกดทับ เอารัดเอาเปรียบ เพื่อที่จะให้คนอีกกลุ่มสุขสำราญและเป็นฝ่ายจัดการทรัพยากรตามใจชอบเพียงฝ่ายเดียว
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยนั้นเป็นการเห็นชอบร่วมกันของคนในสังคมที่จะให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยถืออำนาจของแต่ละคนอย่างเท่าเทียมกัน
ชาติตะวันตกยึดหลักการนี้และค่อยๆ พัฒนาให้อำนาจการตัดสินใจเข้าถึงประชาชนมากที่สุด ในขณะที่มีประเทศอีกส่วนเห็นว่าระบอบคอมมิวนิสต์การจัดสรรทรัพยากรจะเข้าถึงประชาชนได้เท่าเทียมมากกว่า จึงยังคงยึดหลักการดังกล่าวอยู่
สำหรับประเทศไทยไม่ได้เลือกแนวทางอย่างจีน เวียดนาม หรือลาว หากประกาศตัวว่าเป็นประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
ดังนั้น กรณีนี้จึงเป็นข้อผูกมัดและแนวทางที่ต้องเดินหน้าพัฒนาต่อไปให้เกิดการเคารพในสิทธิและเสรีภาพของประชาชนทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคของประเทศไทยใน การพัฒนาทางการเมืองในแนวทางประชาธิปไตยอยู่ที่การหยุดตัวเองอยู่บ่อยๆ หรือราวทุกๆ 10-15 ปี
แสดงให้เห็นว่าเฉพาะการยืนหยัดในหลักการประชาธิปไตยสากลหรือขั้นพื้นฐานยังรักษาหรือพัฒนาให้ดีขึ้นยังเป็นเรื่องยาก
การจะพัฒนาประชาธิปไตยให้มีรูปแบบไทยนิยม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของนานาอารยประเทศ จึงน่าจะยากขึ้นไปอีก
อาจต้องทบทวนกันว่า ช่วงเวลาที่ล้มลุกคลุกคลานนี้ต้องลุกขึ้นและยืนให้ได้ก่อน ส่วนจะขับเคลื่อนต่อไปด้วยเท้าหรือพาหนะแบบใดนั้นไว้เลือกทีหลังได้