กิจกรรมภาคประชาชนชื่อ วี วอล์ก ซึ่งจะเดินจากเขตปริมณฑลกรุงเทพฯ ไปถึงจังหวัดขอนแก่นนั้น ทำให้รัฐบาลถึงกับสั่งใช้กำลังตำรวจเข้าสกัดกั้น ไม่ให้เคลื่อนไหว เพราะขัดคำสั่งคสช.
แม้กิจกรรมนี้ไม่มีประเด็นการเมือง แต่ก็เกี่ยวข้องกับนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าปัญหาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เกษตรทางเลือก หลักประกันสุขภาพ และการใช้สิทธิเสรีภาพ
เรื่องสุดท้ายใกล้เคียงกับการเมืองมากที่สุด เพราะเป็นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย
จึงอาจเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องขอให้รวบรวมข้อมูลและส่งไปให้แทนการเคลื่อนไหว ด้วยเหตุผลว่าอาจลุกลาม เป็นความขัดแย้งขึ้นมาอีก
เมื่อเทียบกับกิจกรรมของภาคประชาชน ในโครงการก้าวคนละก้าวฯ ที่ประสบความสำเร็จในการระดมทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาล ทั้งสองกิจกรรมนี้คล้ายกันตรงที่เป็นการเดินทาง และรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงประเด็นที่ผู้จัดต้องการนำเสนอ
ความแตกต่างไม่ได้อยู่ที่ว่าโครงการหนึ่งริเริ่มและดำเนินการโดยนักร้องผู้มีชื่อเสียง แต่อีกกิจกรรมหนึ่งเป็นนักวิชาการ
หากแต่กิจกรรมแรกไม่ทำให้เกิดการถกเถียงที่กระทบไปถึงนโยบายและผลงานของรัฐบาล ส่วนกิจกรรมหลังอาจทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น
จึงเป็นที่มาของคำแถลงที่รัฐบาลห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม
นอกเหนือจากการใช้เจ้าหน้าที่สกัดกั้นแล้ว รัฐบาลยังมีคำชี้แจงในประเด็นทั้ง 4 เรื่องที่เป็นหัวข้อของการรณรงค์กิจกรรม วี วอล์ก ว่ารัฐบาลได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังหลายด้าน
เช่น ด้านทรัพยากรธรรมชาติ มีการปราบปราม และหยุดยั้งการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการเกษตร มีมาตรการช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต สร้างรายได้ให้เกษตรกร
ด้านหลักประกันสุขภาพ มีการสนับสนุน ค่าใช้จ่าย และด้านการใช้สิทธิเสรีภาพ ไม่มีการบังคับหรือจำกัด อีกทั้งยังเปิดช่องทางรับฟังผ่านศูนย์ดำรงธรรม และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หน่วยทหาร เป็นต้น
แต่น่าเสียดายว่าคำชี้แจงทั้งหมดนี้ยังคง ปรากฏว่าเป็นการสื่อสารทางเดียวเช่นเดิม
