ทุกครั้งที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ หรือ”พี่จิ๋ว” ขยับตัว บรรดาน้องๆนุ่งๆต้องเพิ่มความระมัดระวังอย่างมากเป็นพิเศษ
เพราะว่า “พี่จิ๋ว” ได้ชื่อว่า “ไม่ธรรมดา”

 

ไม่เพียงแต่ยุคหนึ่งสื่อเคยยกย่องว่าเป็นบุคคลประเภท “สมอง คอมพิวเตอร์” เท่านั้น หากแต่ยังระบุว่าเป็น “ขงเบ้งของกองทัพ” ไม่ว่าจะมองผ่านคำว่า “คอมพิวเตอร์” ไม่ว่าจะมองผ่านคำว่า”ขงเบ้ง” ล้วนเพิ่มสีสันให้กับ “พี่จิ๋ว” ทั้งสิ้น

 

ครานี้เมื่อ”พี่จิ๋ว” ออกมา”เชียร์” ยิ่งต้อง “ตั้งการ์ด” แน่นอน ย่อมเป็นการ์ดในทาง “การเมือง” ย่อมมิใช่การ์ดในทาง “การทหาร” แน่นอน

 

เพราะ”พี่จิ๋ว”ก็เกิดเมื่อปี พ.ศ.2475 อายุเท่ากับ “ธรรมนูญการปกครอง” ที่มาพร้อมกับสถานการณ์เมื่อเดือนมิถุนายน 2475 จำเป็นต้องพิจารณา “ถ้อยคำ”แต่ละประโยค

 

ผมขอเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการบริหารประเทศเพราะเป็นคนดี และขอให้พยายามบริหารประเทศให้ดี เพราะเหลือเวลาอีกไม่มาก และไม่มีใครอยู่ในอำนาจได้นาน

 

สถานการณ์วันนี้น่าเป็นห่วงแต่แก้ได้ เพียงแต่แก้ให้ถูกทาง คือทำให้ประชาชนมีกิน ต้องดูตรงนี้เป็นหลัก เพราะเวลาเกิดความขัดแย้ง ยิ่งคนไม่มีกินมันจะวุ่นวายกันใหญ่ ควรสร้างประชาชนให้ลุกขึ้นมารวมตัวกันเพื่อนำพลังมาแก้ไขปัญหา ไม่ต้องรอให้รัฐบาลมาช่วย อย่ารวมตัวกันเพื่อสร้างปัญหา ปิดล้อมทำอะไรที่ผิดกฎหมาย

 

การแก้ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือประชาชนต้องเป็นคำตอบสุดท้าย ทำให้ประชาชนมีอำนาจอย่างแท้จริง

 

ไม่ว่าจะมองในด้านรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะมองในด้านรัฐประศาสนศาสตร์

 

ต้องยอมรับว่าเป็นข้อเสนอที่ดี ต้องยอมรับว่าเป็นข้อเสนออันเปี่ยมด้วยความปรารถนาดีและอยู่บนพื้นฐานแห่ง “ประชาธิปไตย”

 

ไม่อาจตำหนิ “ข้อเสนอ” อันมาจาก”พี่จิ๋ว”ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อ”พี่จิ๋ว”นำเสนอนโยบายที่เรียกอย่างรวบรัดว่า

 

“ทฤษฎีดอกไม้หลากสี”

 

พร้อมกับคำอุปมาอันมากด้วยความคมคาย “คนเราต้องอยู่ร่วมกันได้เหมือนแจกันที่ต้องมีดอกไม้สีต่างๆประกอบเพื่อให้สวย”

 

ไม่ว่าคนฟังจะเป็นใคร อยู่ในอำนาจ หรืออยู่นอกอำนาจในทางการเมือง ฟังแล้วย่อมเห็นด้วย แต่เมื่อเห็นด้วยแล้วทำไมต้อง”ระวัง” ตรงนี้แหละที่ทำให้สายตาอันทอดมองไปยัง “พี่จิ๋ว” มีแววแปลกตามไปด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน