บทบรรณาธิการ
เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2561 นายปรเมธี วิมลศิริ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา
มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร 1111/393 เรื่องข้อ สั่งการของนายกรัฐมนตรี ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีรายละเอียดว่า
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นำเสนอกราบเรียนนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา เพื่อทราบความเห็น เรื่องโครงการพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ในอุดมศึกษา
เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของบริบทโลก (ทุนพัฒนาอาจารย์) พ.ศ.2561-2580
ในการนี้นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเพิ่มเติม จึงใคร่ขอแจ้งข้อสั่งการของท่านนายกรัฐมนตรี มาเพื่อโปรดทราบและโปรดพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยท่านนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
1.ให้ศึกษาในประเด็นการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ก่อนวัยเรียน/ประถม/มัธยม ให้ได้คนที่มีศักยภาพ ตรงความต้องการของประเทศอย่างไร ผู้ที่เข้าอุดมศึกษา/สาขาที่ต้องการได้อย่างไร/ส่วนหนึ่งไปอาชีวะ ได้ปริญญาอย่างไร เพื่อสร้างความชัดเจนให้สังคม ประชาชน/ผู้ปกครองสนใจ
2.กรณีการสนับสนุนงบประมาณให้อุดมศึกษา ให้ควบคุมสาขาที่ไม่มีงานทำ/ไม่ตรงความต้องการ การลดเงินอุดหนุนหรือไม่ให้
จบมาไม่มีงานทำ แต่ต้องใช้หนี้ กยศ./ปัญหาต่อเนื่อง
หนังสือเวียนและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีดังกล่าว อาจจะเกิดขึ้นจากความห่วงใย และพยายามที่จะจัดการงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แต่ประเด็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ก็คือ ใครจะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจว่า สาขาการศึกษาที่เป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์ และสมควรจะให้การอุดหนุนหรือไม่
เพราะถ้าใช้เกณฑ์ว่าเรียนจบแล้วมีงานทำเป็นมาตรฐานในการให้เงินอุดหนุน คงจะเหลืออยู่ ไม่กี่สาขาวิชาที่เปิดสอนในประเทศ
และประเด็นที่ควรพิจารณายิ่งกว่า “เนื้อหา” ของการสอน ก็คือ “กระบวนการ” ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันเป็นสิ่งที่จำเป็นยิ่งกว่า ไม่ว่าในโลกปัจจุบันหรืออนาคต
และเป็นปัญหาของการศึกษาไทยมาโดยตลอด