คำพิพากษาของศาลจังหวัดราชบุรีในคดีอันเกี่ยวกับการลงประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญเมื่อเดือนสิงหาคม 2559

เป็น”บทเรียน”อันสำคัญ

เป็นบทเรียนเหมือนกับคำสั่งศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวต่อกรณี”We Walk เดินมิตรภาพ” เมื่อวันที่ 21 มกราคม จากมหาวิทยาธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ไปยังจังหวัดขอนแก่น

นี่เป็นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ “ตำรวจ”

เพียงแต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 สัมพันธ์กับกรณีประชามติ ขณะที่ในเดือนมกราคม 2561 สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน

หากไม่ยึดเป็น”บทเรียน”ระวังประวัติศาสตร์จะ”ซ้ำรอย”

คงจำกันได้ว่าบรรยากาศการทำ”ประชามติ”ในเดือนสิงหาคม 2559 เป็นบรรยากาศที่น่ากลัวอย่างมาก

ทั้งๆที่เกี่ยวข้องกับ “รัฐธรรมนูญ”

รัฐธรรมนูญอันถือว่าเป็น “กฎหมายสูงสุดของประเทศ” สมควรอย่างยิ่งที่จะให้ประชาชนเข้ามีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง

แต่สถานการณ์ก่อนเดือนสิงหาคม 2559

การเคลื่อนไหวเพื่อ”รับร่างฯ”โดยคสช.และรัฐบาลดำเนินไปอย่างคึกคัก

การเคลื่อนไหวเพื่อ”ไม่รับร่างฯ”ถูกสกัดขัดขวาง

คนที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับ”ร่างรัฐธรรมนูญ” มีจำนวนไม่น้อยที่ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาร้ายแรง

ไม่เพียงแต่ 5 คนโดยสภ.บ้านโป่ง ยังมีอีกมาก

การเคลื่อนไหวของ 5 คนที่ถูกจับกุมโดยสภ.บ้านโป่ง ราชบุรี ก็เช่น เดียวกับการเคลื่อนไหวเพื่อ We Walk เดินมิตรภาพที่เริ่มหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจขึงขังอย่างยิ่ง เข้มข้น อย่างยิ่ง

กรณีของ”ประชามติ”อาจยืดเยื้อมาจนถึงเดือนมกราคม 2561 จึงได้มีคำตอบ ขณะที่กรณีของ We Walk อย่างน้อยก็ได้คำตอบแล้วในเดือนมกราคม 2561 ว่าตำรวจสมควรกำหนดบทบาทของตนอย่างไร

บทเรียนนี้กำลังจะเกิดกับกรณี Start Up People ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน