ยิ่งผ่านไปนานวัน ยิ่งประจักษ์ว่า “แผน” แยก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งดำเนินไปด้วยอย่างล้ำลึก

ล้ำลึก อำมหิต ระดับ “นักฆ่า”

หากเริ่มต้นจากจุดของ “นาฬิกา” หรูก็เหมือนกับเป็น “ธรรมชาติ” อย่างเนียนนุ่ม

เนียนนุ่มราวกับแพรไหมของ “การบินไทย”

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง การกำหนดเป้าเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มิได้เริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2560

หากเริ่มตั้งแต่หลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 นั่น

อย่าไปมองที่พรรคเพื่อไทย อย่าไปมองที่นปช.คนเสื้อแดง หากให้มองไปยัง “สปช.”อันเป็น 1 ใน “แม่น้ำ 5 สาย”

มันเริ่มมาจากภายใน “เรือแป๊ะ”นั่นแหละ

ถามว่าการปูดในเรื่องซื้อขายตำแหน่งในแวดวง “ตำรวจ”ปะทุขึ้นมาได้อย่างไร

โดย สปช.คนใด และสังกัดสายไหน

เหมือนกับจะเป็นการตีเข้าไปยัง “บิ๊ก” ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)

แต่แท้จริงแล้วเป้าอยู่ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ถามว่านับแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ความพยายามนี้เคยยุติลง หรือไม่

ตอบได้เลยว่า ไม่เคยท้อแท้ ไม่เคยท้อถอย

และมาได้จังหวะเหมาะเหม็งยิ่งขึ้นเมื่อเกิดกรณี “นาฬิกา”หรูที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า

อันนำไปสู่การปล่อยคำว่า “กองหนุน”ออกมา

ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับที่โจโฉปล่อยกลยุทธ์ “สองเสือชิงอาหาร” ตามข้อเสนอของสุดยอดกุนซือซุนฮก

นั่นก็คือ ต้องการแยกสลาย 2 เสือ

ในสามก๊กอาจเพื่อสร้างความหวาดระแวงระหว่างเล่าปี่กับลิโป้ซึ่งอยู่ในแคว้นชีโจว

แต่ในแวดวงการเมืองไทยเด่นชัดยิ่ง

นั่นก็คือ สร้างความหวาดระแวงระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

เป็นแผน “อำมหิต”จาก “นักฆ่า”ระดับมือพระกาฬ

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน