สถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ยังคงเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องใช้เวลาพัฒนาการสร้างความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน

ในส่วนของประชาชนที่เคยอยู่ร่วมกันมาก่อนอาจไม่ยากเท่ากับการปฏิบัติระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐจากส่วนกลางกับประชาชนในพื้นที่

ขณะที่อาสาสมัครหรือเอ็นจีโอ มีความสำคัญในฐานะผู้ร่วมสร้างความเข้าใจจากการลงพื้นที่ใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ พบเห็นผู้คนหลายกลุ่มและหลายความคิดเห็น

เช่นกรณีไม่นานมานี้ที่กลุ่มเอ็นจีโอเสนอให้หน่วยงานของรัฐตรวจสอบการจับกุมผู้ต้องสงสัยหรือผู้ต้องหาตามหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนสากล

ทั้งหมดเพื่อป้องกันความขัดแย้งลุกลามหรือหยั่งรากลึก

คําชี้แจงของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันในการยึดหลักปฏิบัติดังกล่าวว่า การเข้าดำเนินการจับกุมของทางเจ้าหน้าที่มีขั้นตอนในการ เข้าจับกุม อาทิ ทางญาติจะต้องรู้ว่าทางเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปไว้ที่ใด และจะมีเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายรวมถึงผูนำศาสนาเข้ามาร่วมการจับกุมด้วยทุกครั้ง

เมื่อเข้าสู่กระบวนการซักถามซึ่งก็ชัดเจนว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยและเจ้าหน้าที่ทุกคนมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ

ด้วยคำยืนยันนี้ที่เปิดให้ผู้คนรับรู้รับทราบอย่างเปิดเผยน่าจะเป็นผลดีต่อการสร้างความเข้าใจ

อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงอันไม่เป็นประโยชน์และไม่น่าจะเกิดขึ้นคือการตำหนิเอ็นจีโอ ว่าเวลาผู้บริสุทธิ์ถูกยิงเสียชีวิต เหตุใดจึงไม่ออกมาเรียกร้องผู้ที่ก่อความไม่สงบให้กลับตัวกลับใจ

อีกทั้งยังมีถ้อยคำแข็งกร้าวว่าจะแจ้งความดำเนินคดีทันที หากตรวจสอบไม่พบเรื่องที่ร้องเรียน

การใช้วาทะเชิงลบเช่นนี้อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า เอ็นจีโอไม่ได้อยู่ฝ่ายเดียวกับประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อ อีกทั้งยังไม่ส่งเสริมการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัด

หากฝ่ายความมั่นคงพยายามเปิดใจให้กว้าง รับฟังและมองเจตนาของผู้ทำงานด้านสันติให้ถ่องแท้ น่าจะช่วยให้การสร้างบรรยากาศในพื้นที่ของความขัดแย้งคลี่คลายลงได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน