แม้กระทั่ง “เด็ดดอกไม้” ยังก่อให้เกิดผลสะเทือนกว้างไกลไปถึงยัง”ดวงดาว”
แล้วกรณีของ “เสือดำ” จะเหลืออะไร
ยิ่งคนอย่าง วิกรม นกเงือก ออกมาเกาะกระแส ยิ่งคนอย่าง
99 ศพ ออกมาเกาะกระแส
ยิ่งก่อให้เกิดนัยประหวัด
เป็นนัยประหวัดไปยังเจ้าตัวของคนเกาะกระแส เข้าทำนองบทสรุปโบราณที่ว่า “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”
ไม่ว่าในเรื่องของ”อนุรักษ์” ไม่ว่าในเรื่องของ”อำมหิต”
นัยประหวัดจากการไล่ล่า”เสือดำ”จึงนำกรณีสังหารอย่างโหด เหี้ยมเมื่อเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 หวนกลับมา
โยงยาวไปยัง 6 ตุลาคม 2519

เห็นหรือไม่ว่า ไม่ว่ากรณี”นาฬิกา”หรู ไม่ว่ากรณี”ยืมเงิน 300 ล้าน” ไม่ว่ากรณี”เสือดำ”ทุ่งใหญ่นเรศวร
เหมือนกับแยกออกจากกัน เป็นคนละเรื่อง
แต่เอาเข้าจริงๆ แต่ละเรื่องก็สามารถโยงและฉายสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นจริงในสังคมได้อย่างคมชัด
เพราะนาฬิกาที่ “ยืม”นั้นทั้งหรู ทั้งแพง
เพราะบุคคลที่อดีตผบ.ตร.”ยืม”จำนวน 300 ล้านบาทนั้นเป็นเจ้าของสถานอบอาบนวด
เพราะกระสุนออกมาจาก เจ้าสัว”ประชารัฐ”
เพราะว่าแม้แต่”เสือดำ”ซึ่งเป็นเดียรฉานผู้คนยังหลั่งน้ำตาให้ถึงเพียงนี้
แล้ว 100 ศพในเดือนเมษายน พฤษภาคม 2553 เล่า
ยิ่ง 6 ศพต้องสังเวยชีวิตให้กับกระสุนโหดในพื้นที่เขตอภัยทานของวัดสระปทุมวนาราม
ยิ่งชวนให้ปลงธรรมสังเวช

ในสถานการณ์ ที่ “กองหนุน” แปรเปลี่ยนไปเป็น “กองหน่าย”มากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ
ไม่ว่า “นาฬิกา” ไม่ว่า “เสือดำ”
ไม่ว่าการยื้อแล้วยื้ออีก เพื่อทอดระยะเวลาของ”การเลือกตั้ง”ให้ยาวนานออกไป
หรือกระทั่งไม่ยอมให้มี “เลือกตั้ง”
ทุกอย่างล้วนไปกองรวมกันอยู่ ณ จุดเดียวโดยอัตโนมัติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน