พลันที่เสียง “หมอธี” ดังผ่านบีบีซีไทย จากกรุงลอนดอนกรณีของ
“นาฬิกา” หรูก็อึกทึกขึ้นอีก
“ถ้าผมถูกเปิดโปงเรือนแรกก็ออกแล้ว”
ที่มีบางคนตั้งข้อสังเกตว่า กรณี”เสือดำ”ทุ่งใหญ่นเรศวรอาจกลบความอื้อฉาวในเรื่องของ”นาฬิกา”หรู
กรณีของ “หมอธี” ยืนยันว่าไม่จริง
แม้ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ในฐานะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจะยังงงๆอยู่
แต่”คนใกล้ชิด” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ยอมงง
ยืนยัน “เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงต้องพูดคุยถึงที่มาที่ไป”
รับรองว่าสะเทือน เลื่อนลั่น
กรณีของ “หมอธี” แม้จะปรากฏเป็นข่าวดังมาจากสำนักข่าวบีบีซี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
หากเป็น”รายงานข่าว”คงสามารถ”ปฎิเสธ”ได้
ปฏิเสธว่าอาจเป็นรายงานข่าวที่คลาดเคลื่อน หรือแม้กระทั่งถึงขั้นเป็นการ”มโน”ขึ้นเอง
แต่นี่เป็นโลกใน “ศตวรรษที่ 21″
สำนักข่าวบีบีซีไทยไม่เพียงนำเสนอเป็น”รายงาน” หากแต่มีเสียงยืนยันผ่าน “คลิป”
“ของอย่างนี้คนไม่กล้าพูด กลัวอะไร”
หากมองจากพื้นฐานที่ “หมอธี” มีสถานภาพในแวดวงของแพทย์ระดับนานาชาติ จึงย่อมเปี่ยมด้วย”จริยธรรม”ทั้งในด้านการแพทย์และในด้านการเป็นครู
จึงพอคาดหมายถึง”แนวโน้ม”และ”ทางออก”ได้ไม่ยาก
จากกรณีขัดแย้งในเรื่องการใช้”มาตรา 44″โยกย้ายอธิบดีบางคนในกระทรวงแรงงาน
นำไปสู่การยื่นใบลาออกในวันที่ 1 พฤศจิกายน
กรณีของ “หมอธี” เป็นสถานการณ์ละม้ายคล้ายคลึงกันอันเกิดขึ้นในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เพียงแต่เป็นการพูดเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์
เพียงแต่เป็นการพูดโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำสหราชอาณาจักร
เป็นสถานการณ์ก่อน 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์
