สํานักเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรม และ ผู้สนับสนุนกว่า 7 ล้านคนทั่วโลก ร่วมกันส่งจดหมายเรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยุติการดำเนินคดีอาญาต่อกลุ่มนักกิจกรรมที่รวมตัวกันอย่างสันติ เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย และทวงสัญญาการเลือกตั้งภายในปีนี้ ตามที่ผู้นำรัฐบาลเคยให้ปฏิญญาเอาไว้
แต่ปรากฏว่าทั้งหมดต้องถูกดำเนินคดีถ้วนหน้า ทั้งข้อหาขัดคำสั่งคสช. กระทำผิดพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ และบางรายถูกดำเนินคดีอาญาข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดความกระด้างกระเดื่องด้วย
เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลนี้ถูกกดดันจากสังคมโลก
ต้องยอมรับว่า ในช่วงปลายของรัฐบาลพิเศษ และกำลังจะก้าวสู่การเลือกตั้งทั่วไป คืนสู่ระบอบประชาธิปไตยตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดเอาไว้ มีความผิดปกติบางอย่างที่อาจจะต้องเลื่อนยาวออกไป
ที่ชัดเจนที่สุด ก็คือการที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เลื่อนบังคับใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ออกไป 90 วัน โดยอ้างว่าเพื่อให้พรรคการเมืองและประชาชนศึกษากฎหมายเสียก่อน
รวมถึงกรณีไม่ยกเลิกและผ่อนคลายประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่จะให้พรรคการเมืองต่างๆ ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เพื่อที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง ทำให้เกิดปฏิกิริยาเพิ่มข้อสงสัยว่าจะสืบทอดอำนาจหรือไม่
การปฏิเสธด้วยปากอย่างเดียวย่อมไม่น่าเชื่อถือเท่าการกระทำ
การชุมนุมเรียกร้องอยากเลือกตั้ง ทั้งที่บริเวณลานย่าโม จังหวัดนครราชสีมา และการนัดชุมนุมเพื่อแสดงเจตนารมณ์เพื่อทวงคืนประชาธิปไตย ในวันเสาร์นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หากรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ยังจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ชุมนุมอีก ก็ย่อมทำได้ตามอำนาจที่มีอยู่ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะสามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวครั้งต่อๆ ไปที่อาจขยายวงได้
มีแต่การทำความชัดเจนเรื่องกำหนดการเลือกตั้งให้เป็นจริง ไม่ทอดยาวออกไปจนเกิดความไม่น่าไว้วางใจเท่านั้น
การประวิงเวลาด้วยวิธีการใดๆ จะไม่ส่งผลดี และจะเกิดความขัดแย้งอื่นตามมา