นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ตอบข้อถามกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ จัดแถลงข่าวเปิดตัวทางการเมืองเข้าข่ายขัด คำสั่งคสช.หรือไม่ ว่า
อะไรทำได้ก็ทำไป อะไรที่เกินจากนั้นถึงขนาดเป็นการชุมนุมทางการเมืองทำไม่ได้
พรรคที่ตั้งแล้วอยากชุมนุมทางการเมืองก็ยังชุมนุมไม่ได้ พรรคที่เพิ่งขอจดทะเบียนยังไม่เป็นพรรคดังนั้นจะมาชุมนุมทางการเมืองคงทำไม่ได้
ส่วนกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เชิญสื่อพูดคุยก่อนจดทะเบียนจัดตั้งพรรคอนาคตใหม่นั้นตนขอไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องของเขา ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปว่ากันเอง
วันนี้เสรีภาพมีอยู่ในการที่จะพูดเขียน แสดงความคิดเห็น เว้นแต่จะล้ำในส่วนที่เขากำหนดไว้
ขอให้ไปดูให้ดี ถ้าไม่ล้ำเส้นตรงนั้นก็ทำได้
ในการแถลงข่าวก่อนไปยื่นขอจดทะเบียนตั้งพรรคการเมือง นายธนาธรเรียกร้องขอให้รัฐบาล และคสช. ผ่อนคลายกฎและการควบคุมเรื่องการเคลื่อนไหวทางการเมือง
มิใช่เพื่อประโยชน์ของพรรคอนาคตใหม่ที่ตนจะจัดตั้งเท่านั้น แต่เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันสำหรับทุกพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคใหม่หรือพรรคเก่า
และเพื่อเป็นการพิทักษ์หลักการเบื้องต้น ของประชาธิปไตย ที่ประชาชนทุกคนมีสิทธิ์แสดงออกในทางการเมืองได้
หากการแสดงออกนั้นไม่เป็นภัยต่อผู้อื่น
จุดยืนที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันเป็นสองขั้ว ระหว่างผู้มีอำนาจฝ่ายหนึ่ง และผู้ที่ประกาศ ตัวเรียกร้องประชาธิปไตยให้กลับคืนมาอีกฝ่ายหนึ่ง
เป็นกรณีศึกษาให้ประชาชนทั่วไปได้พิจารณาว่า จะเลือกเชื่อถือหรือคล้อยตามความคิดชุดใด และจะยึดถือหลักการใดในการปกครอง กระทั่ง อาจจะไม่เชื่อถือหรือไม่คล้อยตามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเลยก็ได้
แต่ความคิดและความเชื่อเช่นนี้ จะมีเสรีภาพในการแสดงออกได้อย่างเสมอภาคก็ต่อเมื่อ สังคมอยู่ในกรอบและบรรยากาศของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงแล้วเท่านั้น
ในสังคมอำนาจนิยม การถกเถียงด้วยปัญญาหรือความเห็นต่างอาจกลายเป็นอาชญากรรมในสายตาผู้มีอำนาจไปได้ง่ายๆ
