ขณะที่สมาชิกพรรคการเมืองต้องถูกจับตาว่าการออกพบปะประชาชนต่างๆ ช่วงนี้ผิดคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือไม่ ในทำเนียบรัฐบาลกลับปรากฏความคึกคักขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดครม.มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชล เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีการท่องเที่ยวและกีฬา
ผู้ได้รับการแต่งตั้งระบุว่าเป้าหมายที่เข้ามาร่วมทีมรัฐบาลครั้งนี้เพื่อผลักดันโครงการเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี
ความเคลื่อนไหวนี้ต่อเนื่องมาจากการเชิญสมาชิกนักการเมืองเข้าไปหารือในทำเนียบรัฐบาลจนนำไปสู่การแต่งตั้งตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ
แม้ความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องดังกล่าวนี้คล้ายการปรับตัวของรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของอดีตผู้แทนประชาชนในรัฐสภามาช่วยการขับเคลื่อนการทำงานของประเทศ
แต่การดึงตัวเข้ามาช่วยทำงานในช่วงเวลานี้ประจวบเหมาะกับการเตรียมทางสู่การเลือกตั้งด้วย
เมื่อรวมกับการจัดตั้งพรรคสำหรับการสานต่ออำนาจของบุคคลในรัฐบาลชุดนี้ทุกอย่างยิ่งสอดคล้องกัน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคงไม่มีปัญหาหรือไม่น่าผิดปกติอะไร หากพรรคการเมือง อื่นๆ ได้รับโอกาสที่จะทำกิจกรรมเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งเช่นเดียวกัน
สิ่งสำคัญในการสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้เกิดการแข่งขันและปรองดองไปพร้อมกันได้คือการเปิดเสรีภาพในการแสดงออกอย่างเท่าเทียมกัน
สมาชิกพรรคการเมืองอาจโต้เถียงกันไปมาไปจนถึงใส่ร้ายป้ายสีอยู่บ่อยครั้ง แต่หากทุกคนอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกัน เปิดข้อมูลหลักฐานออกมาต่อสู้ได้เท่าเทียมกัน จะเกิดกระบวนการตรวจสอบทางสังคมร่วมกันเพื่อให้ประชาชนตัดสินได้เอง
แต่ปัจจุบันพรรคการเมืองกลับถูกล็อกและจำกัดกิจกรรมทางการเมืองด้วยกฎควบคุมพิเศษ แม้แต่การไปพบประชาชนกลุ่มต่างๆ ก็ทำไม่ได้อย่างเสรี
หากภาวะกดทับปิดกั้นอีกฝ่ายไม่ได้เริ่มต้นที่จุดสตาร์ตเดียวกันยังเป็นอยู่เช่นนี้ อาจทำให้ความไม่พอใจของประชาชนสะสมเพิ่มพูนขึ้น