การตรวจสอบคลิปเสียงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการสามัญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. เกี่ยวกับบุคคลที่สมควรได้รับการสรรหาเป็นคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยคณะกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
การสอบสวนนี้มุ่งเน้นว่าคลิปมีจริงหรือไม่ หรือตัดต่อขึ้นเพื่อใส่ร้ายหรือไม่ และคลิปมาจากที่ใด
เช่นเดียวกับคำเตือนของประธานสนช. ต่อสื่อมวลชนถึงการรายงานข่าวนี้ ว่าอาจเสี่ยงทำผิดจริยธรรม และผิดกฎหมาย
กลับไม่ได้พิจารณาประเด็นหลักของเรื่องว่า เหตุใดคณะกรรมการกสทช.จึง ถูกคว่ำ
การสรรหากสทช.ใหม่ เป็นขั้นตอนที่ต้องนับหนึ่งใหม่ เช่นเดียวกับการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.
กรณีของกกต. ที่ประชุมสนช.ลงมติลับ ไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกกต. ทั้ง 7 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จนต้องเริ่มกระบวนการสรรหาที่นับหนึ่งใหม่
แม้ว่าการที่สนช.ไม่เลือกกสทช.ไม่มีผลทางการเมืองเท่ากับ กกต. แต่ขั้นตอนที่ต้องนับหนึ่งใหม่อยู่เสมอนี้ เป็นเรื่องที่น่าตรวจสอบ
โดยเฉพาะการรวบอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองไว้ที่บุคคลหรือคณะบุคคลเพียงหยิบมือ
และเป็นหยิบมือที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเชื่อมโยงใดๆ กับประชาชน
การสรรหาตัวบุคคลโดยคณะที่ไม่ได้มาจากประชาชนแต่กลับตัดสินใจเองและล้มเอง ไม่ได้เปิดโอกาสให้สังคม วงกว้างหรือประชาชนส่วนใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย
ทั้งหมดนั้นบ่งบอกว่า กระบวนการสรรหาล้มเหลวและพร้อมจะต้องนับหนึ่งใหม่
การเริ่มนับหนึ่งใหม่อาจไม่ได้เสียเงินทอง แต่สิ่งที่เสียหายที่สุดคือ เวลา
การสูญเสียเวลาหมายถึงการเสียโอกาสที่กระทบต่อการพัฒนาทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม อันเป็นเรื่องเสียหายใหญ่หลวงสำหรับประเทศ