นางอาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์เดอะริช เลอริช ริชพาร์ค และโครงการแนวราบแบรนด์เดอะริชบิซโฮม และเดอะริชวิลล์ เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีความเปราะบางด้วยปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้ ขณะที่แนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยในอนาคตกำลังเดินเข้าสู่ภาวะการปรับเปลี่ยน ด้วยปัจจัยหลากหลายทั้งการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ และเทคโนโลยีที่มีบทบาทในการพัฒนาโครงการเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทย และชาวต่างชาติ ขณะที่บริษัทมีความเชื่อมั่นสภาพตลาดที่อยู่อาศัยระดับบน ในทำเลศักยภาพที่แนวโน้มมูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ยังคงมีความต้องอย่างต่อเนื่อง
โดยบริษัทได้รีแบรนด์เดอะริช ให้เป็นคอนโดมิเนียมระดับพรีเมียม ภายใต้งบการตลาด 50 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคถึงจุดเด่น คือ อยู่ในทำเลที่ดี การวางแปลนห้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ในระดับราคาขายเฉลี่ย 150,000-200,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป เนื่องจากเป็นเซกเม้นต์ที่มีกำลังซื้อ พร้อมกับล่าสุดบริษัทยังได้เปิดตัวโครงการเดอะริช พระราม 9-ศรีนครินทร์ ทริปเปิ้ลสเตชั่น เป็นโครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมสูง 32 ชั้น มูลค่า 2,500 ล้านบาท พร้อมด้วยพื้นที่เชิงพาณิชย์ 3 ชั้น บนที่ดินรวม 2 ไร่เศษ โดยในส่วนของห้องชุดพักอาศัยมีทั้งสิ้น 558 ยูนิต ขนาดตั้งแต่ 25 ตร.ม.ขึ้นไป
จุดเด่นของโครงการนี้ยังการออกแบบให้มีห้องชุดสไตล์ลอฟต์ความสูงจากพื้นจรดเพดาน 4.4 เมตร ด้วย ขณะที่ทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีหัวหมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้บริษัทได้ถูกเวณคืนที่ดินประมาณ 80 ตร.ว. เพื่อนำไปสร้างบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองทำให้โครงการอยู่ติดสถานี นอกจากนี้ ยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน หัวหมาก-บางซื่อด้วย ซึ่งถือเป็นทำเลศักยภาพ
โดยบริษัทจะเปิดการขายรอบแรกวีไอพี ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ ที่โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส และคาดว่าจะได้ยอดขายมากกว่า 50% เนื่องจากบริษัทได้ตั้งราคาขายเริ่มที่ 110,000 บาท/ตร.ม. หรือเฉลี่ยที่ 120,000 บาท ราคาต่อยูนิตเริ่มที่ 2.92 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทได้ปรับอัตราการผ่อนดาวน์จากเดิม 10-12% เป็น 15% เพื่อรองรับกรณี ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ อาจมีการปรับเกณฑ์อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (แอลทีวี) สำหรับผู้กู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2
พร้อมกันนี้ในช่วงเดือนนี้ บริษัทยังมีการจัดกิจกรรมการตลาดซึ่งถือเป็นงานใหญ่อีก 2 งาน เพื่อเร่งระบายสต๊อกคอนโดสร้างเสร็จพร้อมอยู่รวมถึงคอนโดฯ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วยงานริชชี่ ไฟนอล ไพรส์ระหว่างวันที่ 8-14 พ.ย.นี้ โดยจะนำโครงการทั้งหมดมูลค่ารวม 9,300 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มีสร้างเสร็จพร้อมโอน 4,100 ล้านบาท หรือราว 1,200 ยูนิต ไปจัดโปรโมชั่น คาดว่าจะได้ยอดขายราว 300-400 ล้านบาท และในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย. จะจัดงาน เอเจ้นท์ เดย์ แอนด์ วีวีไอพี โดย บริษัท ไนท์ แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารงานขาย โครงการเดอะริช เพลินจิต-นานา เบื้องต้นคาดว่าจะได้ยอดขาย 150 ล้านบาท
นางอาภา ยังกล่าวในฐานะ นายกสมาคมอาคารชุดไทย ด้วยว่า สถานการณ์การขายโครงการที่อยู่อาศัยในเดือนต.ค. พบว่ายอดลูกค้าเยี่ยมชมโครงการลดลงชัดเจนในทุกโครงการ เพราะผู้บริโภคไม่มั่นใจขอรอดูความชัดเจนของแบงก์ชาติเรื่องการปรับเกณฑ์แอลทีวีใหม่ สำหรับสัญญากู้ซื้อบ้านหลังที่ 2 ทั้งที่โดยปกติช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี จะเป็นช่วงที่ขายดีที่สุดของธุรกิจอสังหาฯ
อย่างไรก็ดี อยากให้แบงก์ชาติเร่งรัดในการประกาศมาตรการโดยเร็ว รวมถึงตอบรับข้อเสนอของสมาคมฯ โดยขอให้เกณฑ์แอลทีวีใหม่ มีผลกับผู้กู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 3 เป็นต้นไป เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีความจำเป็นต้องมีบ้านหลังที่ 2 ในเมือง เพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน
