ชาญอิสสระ มองปีหน้าเศรษฐกิจ-อสังหาฯ ผันผวนสูง เผชิญปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ยังไม่คลี่คลาย ด้านธุรกิจการลงทุนต้องเสี่ยงดวงเพราะจะออกมาทั้งดีและไม่ดี
ชาญอิสสระ ชี้ปีหน้าศก.-อสังหาฯ ผันผวนสูง – นายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2562 การแข่งขันสูง การตลาดน่ากลัว เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีความไม่แน่นอนสูง จากประเทศเศรษฐกิจใหญ่ ทั้งปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ ที่ยังไม่คลี่คลาย รวมถึงปัญหาการเมืองระหว่างประเทศสหรัฐฯ-รัสเซีย ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอนและผันผวนตามไปด้ว
ด้านธุรกิจการลงทุนต้องเสี่ยงดวงเพราะจะออกมาทั้งดีและไม่ดี ทำให้ทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2562 มีแผนลงทุน 6 โครงการ มูลค่า 6,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการดิ อิสสระ ถนนจันทร์-สาทร คอนโดมิเนียม สูง 26 ชั้น บนเนื้อที่ 1 ไร่เศษ มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท โดยมีแผนเปิดการขายภายในไตรมาส 1 ปีหน้า เป็นห้องชุดขนาดใหญ่ 45 ตร.ม.ขึ้นไป ราคาขายประมาณ 170,000 บาท/ตร.ม.
โครงการบ้านพักตากอากาศ พูลวิลล่า 7 หลัง ภายในโครงการทิวทะเลเอสเตท ราคาขายเริ่มต้น 31 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท ปัจจุบันเริ่มขายแล้วและมียอดขายแล้ว 1 ยูนิต โครงการวาเคชั่น คลับ เป็นโรงแรมสูง 10 ชั้น ขนาด 80 ห้อง ภายในโครงการทิวทะเลเอสเตท มูลค่าโครงการ 1.5. พันล้านบาท โดยบริษัทจะขายเป็นแพ็กเกจห้องพักให้กับสมาชิกในราคาเริ่มต้น 4 แสนบาท อายุการใช้บริการห้องพักนาน 20 ปี โดยสามารถใช้ห้องพักได้ปีละ 20 ครั้ง และสามารถเปลี่ยนไปใช้ห้องพักในโรงแรมอื่นๆ ในเครือได้
ขณะที่อีก 2 โครงการ เป็นการลงทุนระยะยาว ประกอบด้วยโรงแรมเมนโฮเทล สูง 12 ชั้น จำนวน 50 ห้อง มูลค่าโครงการ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายโรงแรมบาบา บีช คลับ หัวหิน และส่วนต่อขยายของโรงแรม ศรีพันวา ภูเก็ต คอนเวนชั่นฮอลล์ขนาดจุ 400 คน พร้อมห้องพักแบบพูลสวีท จำนวน 20 ห้อง มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท และโครงการบ้านพักตากอากาศ พูลวิลล่าอีกจำนวน 4 หลัง มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท เพื่อรองรับกลุ่มต่างชาติ ส่วนเป้าหมายผลประกอบการปีหน้าคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง 10%
ด้านนายวรสิทธิ อิสสระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีพันวา แมเนจเมนท์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจโรงแรมที่ผ่านมายังได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัจจัยด้านการท่องเที่ยว และการลดลงของจำนวนนักท่องเที่ยวจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามากระทบ แต่ภาพรวมของอุตสาหกรรมโรงแรมก็ยังเติบโตได้ดี โดยตลอดทั้งปีที่ผ่านมาโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต มีผู้เข้ามาใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ โดยเฉพาะจัดงานแต่งงานรวมแล้ว 87 งาน ทำให้บริษัทมีการขยายคอนเวนชั่นฮอลล์ เพื่อให้เป็นแหล่งรองรับการจัดกิจกรรม อีเว้นท์ ได้มากถึง 400 คน อย่างไรก็ดีปัจจุบันฐานลูกค้าโรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต เป็นไทย 30% จีน 20% อเมริกัน 10% ที่เหลือประเทศอื่นๆ ขณะที่บาบา บีช หัวหิน ได้รับความสนใจจากลูกค้าคนไทยเกินว่าที่คาดหมายไว้ โดยกว่า 80% เป็นคนไทย และประมาณ 50% เป็นฐานลูกค้าเก่าของศรีพันวา ภูเก็ต ซึ่งปีแรกของการเปิดให้บริการพบว่ามีอัตราลูกค้าเข้าพักสูงถึง 60% ในขณะที่อัตราค่าบริการเริ่มต้น 10,000 บาท/คืน
“ประเทศไทยเศรษฐกิจพึ่งการท่องเที่ยวเป็นสัดส่วนที่ดี ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย กระจายรายได้ทุกภาคส่วน แต่ที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุการณ์เรือร่มภูเก็ต ประกอบกับเศรษฐกิจจีนเริ่มมีปัญหาค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง ทำให้รัฐบาลจีนโปรโมทให้ประชาชนจีนเที่ยวเมืองจีน แต่หากประเทศไทยไม่ประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาให้ดี สิ่งที่น่ากลัวมากคือ ประเทศจีนอาจมีการรณรงค์ไม่ให้คนจีนเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ธุรกิจท่องเที่ยวในเชียงใหม่และภูเก็ต เริ่มเรียกร้องแล้วทัวร์ศูนย์เหรียญก็เอา เพราะมีผลของการจับจ่ายทำให้เงินสะพัด”นายสงกรานต์ กล่าว
