นายทวิชา ตระกูลยิ่งยง ประธานผู้บริหารสายงานเทคโนโลยี บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าในแผนงานพัฒนาการให้บริการภายในโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดร่วมมือกับบริษัทในเครือ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จัดตั้ง สมาร์ต คอมมานด์ เซ็นเตอร์ (Smart Command Centre) ศูนย์ควบคุมสังเกตุการณ์จากส่วนกลาง ภายใต้งบการลงทุนรวมกว่า 20 ล้านบาท สำหรับต่อยอดการให้บริการด้านการอยู่อาศัย
“ก่อนหน้านี้ บริษัทประสบความสำเร็จในกระแสตอบรับการเปิดตัว แสนสิริ ซีเคียวริตี้ ซิสเต็ม (Sansiri Security System) หรือระบบรักษาความปลอดภัยภายในโครงการส่วนพื้นที่ส่วนกลาง ด้วยเทคโนโลยีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยผสานกับการทำงานของทีมงานที่ได้รับการฝึกอบรมจากครูฝึกมากด้วยประสบการณ์ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับการอยู่อาศัยของลูกบ้านในด้านความปลอดภัยอย่างรอบด้าน รวมถึงการเป็นผู้นำในการพัฒนา สมาร์ต คอนโด ในทุกโครงการคอนโดมิเนียมที่จะแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป เพราะต้องยอมรับว่าการรักษาความปลอดภัยเป็นหนึ่งในปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า”
สำหรับบริการล่าสุดเพื่อสร้างความมั่นใจในการให้บริการที่ดีที่สุด และเป็นการลดปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดให้ได้ 100% ให้กับลูกบ้านในโครงการที่บริหารจัดการโดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ทั้ง ด้านบริหารจัดการความปลอดภัย และด้านการบริหารจัดการระบบวิศวกรรมอาคาร ด้วยเทคโนโลยี IoT (อินเตอร์เน็ตออฟธิงค์) ที่สามารถช่วยในเรื่องของการบริหารจัดการและลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางของโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์ควบคุมสังเกตุการณ์จากส่วนกลางเต็มรูปแบบแห่งแรกตั้งอยู่ที่อาคารสิริภิญโญ ถนนพญาไท ซึ่งมีหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการ เฝ้าระวัง สังเกตุการณ์เหตุผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในโครงการต่างๆ เพื่อแจ้งมายังศูนย์ควบคุมส่วนกลาง พร้อมผู้เชี่ยวชาญคอยเฝ้าระวัง สั่งการ และประสานงานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม บริการ สมาร์ต คอมมานด์ เซ็นเตอร์ จะใช้เฉพาะในโครงการใหม่ๆ โดยจะเริ่มเชื่อมต่อข้อมูลจาก 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เทอร์ทีไนน์ สุขุมวิท 39, โครงการ เดอะ ไลน์ อโศก-รัชดา, โครงการ เดอะ ไลน์ ราชเทวี และโครงการบ้านเดี่ยวคณาสิริ พระราม 2-วงแหวน นอกจากนี้ ในปี 2562 จะเพิ่มอีก 11 โครงการ ทั้งโครงการแนวรายและสูงที่จะแล้วเสร็จทั้งหมดอีกด้วย ส่วนโครงการเดิมต้องขึ้นอยู่นิติบุคคลของโครงการที่พร้อมจะลงทุนหรือไม่ ซึ่งงบการลงทุนอยู่ในหลักล้านบาท เพื่อติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลจากศูนย์ฯไปยังโครงการ
