‘โกลด์’ ฟุ้งบ้านแพงขายดี ปีนี้ผุดเพิ่ม 6 โครงการหมื่นล้าน ชู ‘ขายบ้านตลาดกลางแต่ให้ออพชั่นตลาดบน’

‘โกลด์’ ฟุ้งบ้านแพงขายดี – นายวิรัชต์ มั่นเจริญพร กรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หนือ โกลด์ เปิดเผยว่า กลยุทธ์การรุกธุรกิจบ้านเดี่ยวระดับกลาง-สูง ภายใต้แนวคิด “ขายบ้านตลาดกลางแต่ให้ออพชั่นตลาดบน” ทำให้ยอดขายและรายได้เติบโตต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2561 มียอดขายที่ 6,800 ล้านบาท เติบโต 49% รายได้ที่ 4,199 ล้านบาท เติบโต 29% ภายใต้การเปิดตัว 2 โครงการ 3,360 ล้านบาท

ส่วนในปี 2562 บริษัทจะเดินกลยุทธ์ขยายการเปิดโครงการใหม่มากขึ้นเป็น 6 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท และขยายทำเลเพิ่มขึ้น ประกอบด้วยทำเลปิ่นเกล้า พระราม 2 บางนา รัตนาธิเบศร์ รังสิต และรามอินทรา โดยยังคงอยู่ภายใต้ 2 แบรนด์หลัก คือ แกรนดิโอ บ้านเดี่ยวระดับราคา 7-10 ล้านบาทและ เดอะแกรนด์ ระดับราคา 20-100 ล้านบาท พร้อมวางเป้าหมายยอดขาย 8,000 ล้านบาท เติบโต 17% และ รายได้ 5,000 ล้านบาท เติบโต 20%

ขณะเดียวกันบริษัทยังอยู่ระหว่างออกแบบและพัฒนาสินค้าใหม่ในกลุ่มซิตี้โฮม บ้านที่เน้นทำเลในเมือง ซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมองหาบ้านทำเลในเมือง แต่หาได้ค่อนข้างยาก บริษัทจึงเริ่มคิดค้นหาแนวทางเพื่อจัดสรรบ้านในเมือง ให้เป็นซิตี้โฮมที่แท้จริงไว้รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้ โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว หรือ บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม อาทิ ทำเลพระราม 3 สาทร ลาดพร้าว แจ้งวัฒนะ ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ขนาดพื้นที่โครงการประมาณ 15 ไร่ โดยคาดว่าจะเริ่มพัฒนาเข้าสู่ตลาดได้ภายในปีหน้า ซึ่งในปีนี้บริษัทได้วางงบซื้อที่ดิน 2,800 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ 7 โครงการในปีหน้า

สำหรับรายละเอียด 6 โครงการ ที่จะเปิดการขายในปีนี้ เริ่มจากโครงการแรกในไตรมาสแรกนี้ 1 ภายใต้โครงการเดอะ แกรนด์ ลักซ์ บางนา-สวนหลวง มูลค่า 1,500 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยว ราคา 20-60 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอย 306-525 ตร.ม. การออกแบบเป็นโมเดิร์น ลักชัวรี่ มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ฟังก์ชั่นบ้านเป็นบ้านมีสวนหรือสระตรงกลาง ทำให้ดูโปร่งโล่ง และทั้งโครงการมี 61 ยูนิต โดยเริ่มเปิดการขายไปแล้วล่าสุดมียอดขาย 300 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 2 เปิด 1 โครงการ มูลค่า 980 ล้านบาท ไตรมาส 3 เปิด 2 โครงการ มูลค่า 3,300 ล้านบาท และไตรมาสที่ 4 อีก 2 โครงการ มูลค่า 4,220 ล้านบาท

“ภาพรวมตลาดบ้านเดี่ยวระดับกลาง-สูง เป็นตลาดที่เติบโตทุกปีแต่ไม่หวือหวา และส่วนใหญ่ไม่ได้ซื้อเป็นบ้านหลังแรก แต่ซื้อเพื่อขยายหรือย้ายทำเล ซึ่งต้องการบ้านหลังใหญ่ขึ้น สะดวกขึ้น ทำเลดีขึ้น”

นายวิรัชต์ กล่าวและว่า ในส่วนของมาตรการควบคุมการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือแอลทีวี ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 เม.ย.นี้ ทำให้ผู้ซื้อต้องวางเงินดาวน์เพิ่มขึ้น 10-30% นั้น มองว่ากลุ่มผู้ซื้อบ้านในตลาดกลาง-บน 10 ล้านบาทขึ้นไป ไม่กระทบมากนัก โดยเฉพาะลูกค้าของบริษัท เนื่องจากมีการเก็บเงินดาวน์ขั้นต่ำ 20% เป็นปกติอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อจึงไม่น่าจะได้รับกระทบมากนัก ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้ามีอัตรายกเลิกการซื้อประมาณ 35% โดย 20% เป็นการยกเลิกของลูกค้า และมีเพียง 15% ที่ลูกค้าถูกปฏิเสธสินเชื่อจากธนาคาร สาเหตุทั้งจากวงเงินกู้ที่ลูกค้าได้ไม่ครอบคลุมราคาบ้าน หาผู้กู้ร่วมไม่ได้ และหลักฐานการเดินบัญชีธนาคาร (สเตตเม้นต์) ไม่ดี เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน