นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สถาการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับบนในขณะนี้ เชื่อว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อ เพียงแต่การตัดสินใจซื้อช้าลง จาก 2 ปัจจัยหลัก คือ จะมีคอนโดมิเนียมตัดขายขาดทุนเข้าสู่ตลาดหรือไม่ และรอความชัดเจนหลังการเลือกตั้ง ซึ่งในส่วนของบริษัทเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งจะผ่านไปด้วยดี และสถานการณ์ต่างๆ จะมีความชัดเจนมากขึ้นทำให้ตลาดโดยภาพรวมดีขึ้นอย่างแน่นอน
โดยแผนการดำเนินงานของบริษัทในปี 2562 นอกจากจะมีการทยอยโอนคอนโดมิเนียม และบ้านเดี่ยว ปีนี้ทั้งปีที่ประมาณ 9,000 ล้านบาท จากการส่งมอบโครงการในมือจำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย คอนโดมิเนียม ดิเอส อโศก กว่า 3,000 ล้านบาท หรือมียอดขาย 90%, คอนโดมิเนียม สิงคอมเพล็กซ์ ประมาณ 4,900 ล้านบาท หรือมียอดขาย 90% และจากโครงการ สันติบุรี เดอะ เรสซิเดนเซส ซึ่งเป็นบ้านราคาเริ่มต้น 240 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดขายแล้ว 3 หลัง ประมาณ 1,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันในเดือนมิ.ย.นี้ เตรียมเปิดคอนโดมิเนียมใหม่อีก 1 โครงการ ภายใต้แบรนด์ใหม่ บริเวณถนนรางน้ำ ติดสวนสันติภาพ และตรงข้ามคิงเพาเวอร์ ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมสูง 35 ชั้น 415 ยูนิต บนที่ดินเกือบ 2 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 4,000 ล้านบาท ส่วนขนาดห้องชุดเริ่มที่ 30 ตร.ม. ราคาขายประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม. โดยเชื่อมั่นโครงการนี้จะมีลูกค้าต่างซื้อเต็มโควตา 49% เนื่องจากเป็นทำเลที่ต่างชาติรู้จักดี โดยเฉพาะชาวจีน ในฮ่องกง และส่วนใหญ่ซื้อเพื่อการลงทุน โดยกลุ่มนี้มองว่าผลตอบแทนจากการขายต่อเพียงแค่ 2% ก็ถือว่าพอใจแล้ว
