นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) จำนวน 6,957 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น 22.47% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยล่าสุดบริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว โดยมีที่ปรึกษาทางการเงินประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย, บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง และบริษัทหลักทรัพย์ภัทร

ทั้งนี้ AWC เป็นบริษัทเพื่อการลงทุน หรือโฮลดิ้ง คัมปานี ภายใต้เครือทีซีซีกรุ๊ป ของตระกูลสิริวัฒนภักดี ซึ่งนโยบายการดำเนินธุรกิจบริษัทโดยมุ่งเน้นพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ใน 2 กลุ่มธุรกิจหลักโดยเน้นส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ได้แก่ 2 กลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 10 แห่ง ห้องพักรวม 3,432 ห้อง อัตราลูกค้าเข้าพักเฉลี่ยทั้งปี 82% และกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ โดยครอบคลุมทั้งโครงการค้าปลีกและอาคารสำนักงาน รวมพื้นที่ 6 แสนตร.ม. คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์รวมของบริษัท ณ 31 มี.ค. 2562 ที่ 92,000 ล้านบาท

ขณะที่ในปี 2561 บริษัทมีรายได้ที่ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเฉลี่ย 3 ปี 15% โดย 60% เป็นรายได้จากธุรกิจโรงแรม และอีก 40% เป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์

สำหรับกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 489 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์การลงทุนในธุรกิจโรงแรมภายใต้ 4 กลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มลูกค้าประชุมสัมนา กลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัวและกลุ่มนักธุรกิจ โดยทั้งหมดจะต้องเป็นโรงแรมที่บริหารงานโดยโรงแรมที่รู้จักในระดับโลก เนื่องจากมีฐานลูกค้ากว่า 300 ล้านคนทั่วโลก อาทิ แมริออท, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, บันยันทรี, ฮิลตัน และเชอราตัน

อย่างไรก็ดีภายใน 5 ปีข้างหน้า บริษัทจะขยายห้องพักเพิ่มเป็น 8,000 ห้อง โดยขณะนี้ 1,528 ห้อง เป็นโรงแรม 5 แห่งที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง และอีก 12 แห่งบริษัทมีการทำสัญญาซื้อขายแล้ว ขณะที่ธุรกิจค้าปลีกซึ่งมีโครงการเอเขียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เป็นธุรกิจเรือธง นอกจากนี้ยังมเกทเวย์ แอท บางซื่อ,พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ และตะวันนา บางกิปิ ในขณะที่อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ และแอทธินี ทาวเวอร์ จะเป็นธุรกิจเรือธงในฝั่งของธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงาน

“พื้นฐานประเทศไทยมีความแข็งแกร่งมาก ศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของไทยก็ยังเติบโตได้อีก โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ทำให้มั่นใจในศักยภาพการเติบโตของธุรกิจยังไปได้ต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งแผนลงทุนของบริษัทในช่วงที่ผ่านมาหลายหมื่นล้านบาท และยังคงเดินหน้าลงทุนอีกหลายหมื่นล้านบาทในอนาคตด้วย”นางวัลลภากล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน