นายสงกรานต์ แสงอร่ามรุ่งโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาดและการขาย บริษัท เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังได้จัดตั้งทีมบริหารใหม่ที่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัยจาก พฤกษา เรียลเอสเตท และทีมการเงินที่มีประสบการณ์จาก ชาญอิสระ ดีเวล็อปเมนท์ เข้ามาร่วมงานได้ 1 เดือน ทำให้มีการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจใหม่ โดยนอกจากเดินหน้าระบายสต๊อกสินค้าคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ 2 โครงการ รวมกว่า 1,500 ยูนิต ประกอบด้วย โครงการเจ คอนโด สาทร-กัลปพฤกษ์ ราคาขายเริ่มต้น 1.6 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันสร้างแล้วเสร็จทั้ง 2 อาคาร โดยมีห้องพร้อมขายประมาณ 600 ยูนิต และโครงการไมอามี่ คอนโด บางปู ระดับราคายูนิตละ 7-8 แสนบาท ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จเช่นกัน และมีห้องสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่รวมแล้ว 900 ยูนิต จากทั้งหมด 2,100 ยูนิต รวมถึงได้มีการปรับดีไซซ์บ้านแนวราบเพื่อให้ทันสมัย มีคุณภาพมากขึ้น ตลอดจนมีการบริการหลังการขายที่ดี

ในเวลาเดียวกันบริษัทยังได้เดินหน้าปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายทิศทางการดำเนินใหม่ของบริษัท ซึ่งจากนี้ไปจะมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบในระดับราคา 2-3 ล้านบาท ในพื้นที่วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ รวมถึงจะเริ่มรุกตลาดบ้านแฝดพรีเมียม 3 ชั้น บนถนนกัลปพฤกษ์ ในระดับราคา 7-8 ล้านบาท โดยจะเปิดการขายในปีหน้า ซึ่งบริษัทมองเห็นโอกาสในการแข่งขันด้านราคาเนื่องจากบริษัทมีที่ดินต้นทุนเก่ารวมกว่า 10 ทำเล โดยตั้งเป้าหมายภายในไม่เกิน 5 ปีจากนี้จะขึ้นเป็นผู้นำ 1 ใน 5 ด้านยอดขายในตลาดบ้านแนวราบ หรือมียอดขายไม่น้อยกว่า 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี แผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ จะเปิด 1 โครงการใหม่ ภายใต้โครงการเจ วิลล่า บางบัวทอง เนื้อที่ 30 ไร่ เป็นบ้านแฝด และโฮมออฟฟิศ ราคาเริ่มต้น 3.29 ล้านบาท มูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ส่วนแผนธุรกิจปี 2563 ยังคงรุกโครงการแนวราบอย่างต่อเนื่องอีก 7 โครงการ ประกอบด้วยทำเล บางพระ, แพรกษา, บางใหญ่, ติวานนท์ และบางบัวทอง รวมมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท ส่วนเป้าหมายธุรกิจในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 4,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 3,215 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกมียอดขายแล้ว 2,000 ล้านบาท และยอดรับรู้รายได้ที่ 1,100 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน