นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า เห็นสัญญาณฟื้นตัวจากผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2562 ซึ่งทำให้เห็นว่าอนันดาฯ ได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2562 ไปแล้ว โดยมีกำไรสุทธิ 234 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุนซึ่งบริษัทได้ผลักดันรูปแบบธุรกิจแบบโครงการร่วมทุนมาอย่างต่อเนื่องกับพันธมิตรหลักอย่าง บริษัท มิตซุย ฟูโดซัง นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าหมายยอดโอนในไตรมาสที่ 4 สูงที่สุดของปี เนื่องจากมีคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนหลายโครงการ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ จากภาครัฐที่ช่วยสนับสนุนให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีทิศทางที่ดีขึ้น
โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 /2562 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) 29,300 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของยอดโอนในระยะ 3 ปีข้างหน้า ในส่วนของกระแสเงินสดของบริษัทฯ ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดที่มีมากกว่า 8,000 ล้านบาท
ในไตรมาส 4 บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ภายใต้แบรนด์คุณภาพ “คิว” และ “ไอดีโอ” ในราคาที่คุ้มค่าและดีที่สุดบนทำเลศักยภาพ พร้อมดีไซน์และฟังก์ชั่นที่เติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ผ่านแนวคิด ANANDA URBAN WELLNESS ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยของชีวิตคนเมืองและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน เติมเต็มทุกการอยู่อาศัยของคนเมือง บนสุดยอดทำเล พร้อมพงษ์ / พระโขนง / จุฬา-สามย่าน และ จรัญสนิทวงศ์ มูลค่าโครงการรวมกว่า 13,000 ล้านบาท ในราคาเริ่ม 1.59-5.73 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมพัฒนาโครงการ Smart City และ Technology & Innovation Hub บนที่ดินของโครงการธนาซิตี้ ติดถนนบางนา-ตราด เนื้อที่โครงการมากกว่า 100 ไร่ ของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เพื่อพลิกโฉมวงการที่อยู่อาศัยให้สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง
บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าด้วยกลยุทธ์พัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์หลักที่ทำเป็นเจ้าแรกและดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งการขยายเครือข่ายของรถไฟฟ้าจากปัจจุบัน 109 สถานี เป็น 221 สถานี ในอีก 5 ปี และจะเป็น 319 สถานีในอีก 11 ปีข้างหน้า ทำให้ผู้นำการพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าอย่างอนันดาฯ ได้รับผลดีจากการขยายตัวนี้ นอกจากนี้ในปีหน้า โครงการเซอร์วิส อพาร์ตเม้นต์ จะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการได้เป็น 2 โครงการแรก คือ SOMERSET RAMA9 และ LYF SUKHUMVIT 8 ซึ่งจะมาช่วยเสริมการมีรายได้ประจำ (Recurring Income) ของบริษัทอีกด้วย
“อย่างไรก็ตาม ตามที่บริษัทกล่าวเสมอมา ว่าเรายังเน้นย้ำการรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวด โดยจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ที่1 เท่า เราต้องมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะไม่เพิ่มความเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว”นายชัยยุทธ กล่าวทิ้งท้าย
