ธปท.ผ่อนเกณฑ์ปล่อยกู้บ้าน ยอมหลังแรกกู้เพิ่ม 10% ซื้อเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งได้ – ส่วนกู้สัญญาที่ 2 ลดเวลาเหลือ 2 ปี จากเดิม 3 ปี ผ่อนบ้านหลังแรก ให้วงเงินดาวน์ 10-20%

ธปท.ผ่อนเกณฑ์ปล่อยกู้บ้าน – นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (แอลทีวี) มีผลตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป โดยผ่อนผันมาตรการเพิ่มเติม ให้กับผู้ที่กู้บ้านหลังแรกไม่เกิน 10 ล้านบาท ที่กู้ได้ 100% เต็มมูลค่าหลักประกัน สามารถทำสัญญากู้เพิ่มเติมได้อีก 10% เพื่อนำไปใช้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นในการเข้าอยู่อาศัย จากเดิมที่ไม่สามารถทำได้ และปรับเกณฑ์ให้บ้านหลังราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไป ที่เป็นบ้านหลังแรก เดิมต้องวางเงินดาวน์ 20% ให้เหลือ 10%

“มาตรการนี้ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการกู้ซื้อบ้านหลังแรก ที่พบว่ามีการไปกู้ในลักษณะสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ทำให้มีภาระเงินผ่อนสูงขึ้นเรื่อยๆ ธปท.ก็ไม่อยากเห็น การเพิ่มวงเงินกู้ให้อีก 10% จะทำให้ผู้กู้มีเงินเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพ”นายรณดล กล่าว

สำหรับสินเชื่อบ้านสัญญาที่ 2 หากผ่อนหลังแรกมาแล้วตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป จากเดิม 3 ปี วงเงินดาวน์ 10% และวางเงินดาวน์ 20% หากผ่อนบ้านหลังแรกยังไม่ถึง 2 ปี จากเดิม 3 ปี ขณะที่การซื้อบ้านสัญญาที่ 3 ยังต้องมีการวางเงินดาวน์ 30% ซึ่งการปรับ LTV ยังคงเป้าหมายผู้ซื้อบ้านหลังแรกไม่ได้รับผลกระทบ การป้องกันการเก็งกำไรเพื่อไม่ให้เกิดฟองสบู่ และกำกับดูแลสถาบันการเงินไม่มีการปล่อยกู้มีเงินทอน หรือ ปล่อยกู้มากกว่าราคาบ้าน

นายรณดล กล่าวว่า ยังไม่เหมาะสมที่จะยกเลิกเพดานแอลทีวีสำหรับการกู้ซื้อบ้านสัญญาที่ 2 เนื่องจากข้อมูลพบว่า มากกว่าครึ่งของผู้กู้ซื้ออาคารชุด 2 สัญญาพร้อมกันมีระยะห่างระหว่างสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 2 ไม่ถึง 1 ปี สะท้อนว่าเป็นการกู้เพื่อเก็งกำไร มากกว่าเพื่อการกู้เพื่ออยู่อาศัยจริง โดยผลจากมาตรการส่งเสริมให้ประชาชนเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกง่ายขึ้น และดูแลประชาชนกลุ่มที่จำเป็นต้องมีที่อยู่อาศัย 2 หลัง ที่มีวินัยในการผ่อนชำระมาแล้วระยะหนึ่งให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น

ทั้งนี้ ในช่วง 11 เดือนแรก ปี 2562 หลังจากมีการใช้มาตรการแอลทีวี พบว่ามีสัญญาสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ใหม่ขยายตัวได้ 10.8% โดยสินเชื่อบ้านแนวราบขยายตัว 17.8% บ้านสัญญาที่ 1 โตได้ 5.6% แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อบ้านหลังแรกไม่ได้ผลกระทบ ขณะที่แนวสูง -2.7% เป็นผลมาจากมาตรการส่วนหนึ่ง เศรษฐกิจชะลอ และความต้องการซื้อต่างชาติชะลอตัวลง จากเงินโอนต่างประเทศ -30% ขณะที่การกู้สัญญาที่ 2 -20.4% จากสินเชื่อคอนโดมิเนียม -31.6% เนื่องจากที่ผ่านมามีการเก็งกำไร ซึ่งทำให้คอนโดมิเนียมมีการปรับลดลง เป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมเป็นที่อยู่อาศัยจริงมากขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน