นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกจะชะงักไป 2 ปี หรือคาดว่าในปี 2565 กว่าที่เศรษฐกิจจะกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงปี 2562
ในขณะที่ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในขณะนี้ยังมีความกังวลกับปัญหาเดิมๆ ทั้งมาตรการกำกับดูแลเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน หรือแอลทีวี ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง ความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของธนาคาร ตลอดจนสงครามการค้าจีน-สหรัฐ และยังมีปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มเติมเข้ามา ส่งผลให้ปัญหาใหญ่ของธุรกิจอสังหาฯ ที่ต้องเผชิญกับการที่ลูกค้ากู้ไม่ผ่านเพิ่มขึ้น และยิ่งมีโควิด ทำให้บางอาชีพที่เคยกู้ได้ง่าย เช่น นักบิน แอร์โฮสเตส และอาชีพที่อยู่ในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งธนาคารเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่กู้ไม่ผ่านเพิ่มขึ้นจาก 15-20% เป็น 20-35% อย่างไรก็ดี ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยประชาชนให้กู้เงินจากธนาคารได้ง่ายขึ้น
ทั้งนี้ จากปัญหาข้างต้นทำให้บริษัทต้องให้ความสำคัญกับการบริหารสภาพคล่อง ด้วยการเลื่อนเปิดโครงการใหม่จากแผนเดิมเปิด 12 โครงการที่อยู่อาศัยแนวราบมูลค่ารวม 18,500 ล้านบาท เหลือเปิดเพียง 3 โครงการ และหันไปเน้นขายโครงการที่มีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเน้นขายโครงการที่สร้างเสร็จพร้อมขาย ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสินค้าพร้อมโอนกรรมสิทธิ์มูลค่ารวม 10,000-11,000 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียมประมาณ 7,000 ล้านบาท เบื้องต้นคาดจะสามารถระบายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ในปีนี้ และโครงการแนวราบอีกประมาณ 4,000 ล้านบาท พร้อมกับมีแคมเปญโปรโมชั่นแรงๆ สำหรับบ้านแนวราบ บริษัทออกต้นออกดอกให้นาน 1 ปี ส่วนคอนโดมิเนียม ให้อยู่ฟรีสูงสุด 30 เดือน เป็นต้น
พร้อมกับปรับเป้ายอดขายเหลือ 14,500 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะทำได้ 16,000 ล้านบาท โดยในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) บริษัทมียอดขายรวมแล้ว 6,000 ล้านบาท ทรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทได้ร่วมกับเครือโรงพยาบาลพญาไท ในการรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพอากาศ บ้านนวัตกรรมอากาศบริสุทธิ์ ในโครงการเพอร์เฟค มาสเตอร์พีซ 5 ทำเล ได้แก่ สุขุมวิท 77, พระราม9-กรุงเทพกรีฑา, รามคำแหง,แจ้งวัฒนะ และ รัตนาธิเบศร์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีการทดสอบและรับรองคุณภาพอากาศภายในบ้าน
