นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ อีซีเอฟ เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์จากตลาดต่างประเทศเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งจากญี่ปุ่น อเมริกา จีน และอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของบริษัท โดยยอดสั่งซื้อนอกจากไม่ตกแล้วแต่ยังเพิ่มขึ้นด้วย เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาติดคำสั่งเคอร์ฟิวของรัฐบาล ทำให้กำลังการผลิตไม่สามารถทำได้เต็มที่ แต่อย่างไรก็ดี บริษัทยังเชื่อมั่นว่าจะยังรักษาการเติบโตของรายได้ในปี 2563 ให้ได้มากกว่าปี 2562 ซึ่งมีรายได้ 1,301 ล้านบาท โดยที่ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการส่งออก ประมาณ 60% ของรายได้รวม

ขณะเดียวกันบริษัทก็ไม่หยุดลงทุนในธุรกิจพลังงาน ถ้ามีโอกาสเข้ามาสำหรับการซื้อกิจการเพื่อให้ผลกำไรของบริษัทมีทิศทางที่เติบโตขึ้น ภายใต้กลยุทธ์ 4 ด้าน คือ วิเคราะห์สถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน โดยบริษัทได้เริ่มทำไปแล้ว คือ การกระจายความเสี่ยงจากเดิมส่งออกญี่ปุ่นเป็นหลัก ก็ได้ขยายตลาดอเมริกา จีน และอินเดีย ด้านการบริหารจัดการภายในโรงงาน เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น การร่วมทุนพายใต้ บริษัท พลังงานเพื่อโลกสีเขียว (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้น 20% เพื่อดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิต 220 เมกะวัตต์ ที่เมืองมินบู ประเทศเมียนมา ซึ่งขณะนี้กำลังก่อสร้างเฟสที่ 2-4 รวม 170 50 เมกะวัตต์ โดยมีกำหนดทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (ซีโอดี) ตั้งแต่เดือนเม.ย. – พ.ย. 2564 พร้อมกับจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ ในปีหน้าด้วยเช่นกัน ส่วนกลยุทธ์สุดท้ายคือ การรุกเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายผ่านออนไลน์มากขึ้นและคาดหวังให้มีสัดส่วนรายได้จากออนไลน์เกิดขึ้นให้ได้ภายในปีนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน