รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9 มือถือพรีเมียมคุ้มราคา

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9 – สมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม หรือ เรือธงในปัจจุบันนั้นต้องยอมรับว่าของหลายค่ายกำลังมีราคาที่สูงอย่างน่าตกใจ ไม่ว่าจะตั้งแต่ 3 หมื่นบาท ไปจนถึงครึ่งแสนเข้าไปแล้ว โชคยังดีสำหรับผู้มีทรัพย์ปานกลางที่ค่ายอย่างเสี่ยวหมี่ จีน

ที่สร้างทางเลือกสำหรับสาวกเรือธงผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีล่าสุดได้ในราคาที่คุ้มค่า

เสี่ยวหมี่ หมี่ 9 (Xiaomi Mi 9) เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่แม้ไม่ได้สร้างเทรนด์ใหม่หรือมีนวัตกรรม ลูกเล่นที่สร้างความฮือฮา แต่เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตมาอย่างพิถีพิถัน พร้อมฟีเจอร์และเทคโนโลยีต่างๆ

แทบจะเทียบเท่าเรือธงของค่ายชั้นนำในตลาดพรีเมียม แต่สนนราคาเริ่มต้นที่ 16,999 บาทเท่านั้น!

ตัวเครื่องหมี่ 9 ประกอบขึ้นด้วยวัสดุเป็นอะลูมิเนียมซีรีส์ 7000 และกระจกกอริลลา กลาส 6 ประกบหน้าหลัง มีขนาดกว้าง 74.7 ยาว 157.5 หนา 7.6 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตเตอรี่ 173 กรัม นับว่าค่อนข้างเบาและบาง

ลำโพงอยู่ที่ขอบล่าง (ไม่ใช่สเตอริโอ) และ USB-C

ชาร์จไฟและเชื่อมต่อข้อมูล

สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อข้อมูล พร้อมถาดใส่ซิมแบบคู่ (ใส่ได้ 2 ซิม พร้อมกัน) หน้าจอเป็นเทคโนโลยี Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว ที่ให้สีฉูดฉาด ดำลึกแท้ และความสว่างที่น่าประทับใจ มีความละเอียด QHD+ (2,340×1,080) พิกเซล

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

เทียบภาพ เลนส์หลัก

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

เทียบภาพ เลนส์อัลตราวาย

ความหนาแน่นพิกเซล 403 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตราส่วนภาพ 19.5:9 สนับสนุนระบบภาพ HDR10 และ DCI-P3 มีสัดส่วนจอภาพต่อตัวเครื่องอยู่ที่ร้อยละ 85.2 แต่มีติ่ง (notch) เป็นแบบหยดน้ำย้อยลงมาจากขอบบนเล็กน้อย

ถือว่ามีขนาดเล็กและแลดูไม่ เกะกะสายตาเกินไปนัก โดยการรับชม คอนเทนต์ต่างๆ ซูมได้เต็มจอภาพไม่ถูกหยดน้ำบังมากเกินไป และคุณภาพเสียงที่ได้นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี แม้จะไม่ใช่ลำโพงสเตอริโอก็ตาม

อย่างไรก็ดี ผู้ที่ต้องการคุณภาพเสียงสูงควรใช้หูฟังมากกว่า

ด้านหลังเครื่องของหมี่ 9 ออกแบบไล่สีแบบเกรเดียนต์ หรือที่ทางฟิสิกส์เรียกว่า โฮโลกราฟิก สเป๊กตรัม โดยทางผู้ทดสอบจากเว็บไซต์แอนดรอยด์อูธอรีตี ระบุว่า

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

กล้องหลัง 3 เลนส์ ปูดออกมา

ความรู้สึกขณะถือในมือนั้นยอดเยี่ยมราวกับสมาร์ตโฟนเครื่องนี้ร่ำร้องให้ใช้ ทั้งยังให้ความรู้สึกนุ่มนวล และพรีเมียมเหมือนถือสมาร์ตโฟนเรือธงอยู่ด้วย

งานออกแบบภายนอกที่ยอดเยี่ยมของหมี่ 9 มาพร้อมกับการลดทอนฟีเจอร์บางอย่างลง อาทิ การไม่มีช่องเสียบสายหูฟังแบบมินิแจ๊กขนาด 3.5 .. และไม่สนับสนุนการ์ดหน่วยความจำเสริมอย่าง microSD-card รวมทั้งหมี่ 9 ไม่ได้ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น และแบตเตอรี่ที่ใส่มานั้นมีขนาดเพียง 3,300 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) ถือว่าค่อนข้างน้อยสำหรับสมาร์ตโฟนระดับเรือธงในปีนี้

การทดสอบใช้งานพบว่า อยู่ได้เกือบทั้งวันตั้งแต่ช่วงเช้า แต่แบตฯ จะหมดในช่วงเย็นหากใช้งานหนัก แต่ข้อเสียที่กล่าวมานั้นชดเชยด้วยระบบชาร์จไฟของหมี่ 9 ที่สนับสนุนการชาร์จแบบ ไร้สายขนาด 20 วัตต์ (W) แต่ผู้ใช้จะต้องซื้อชาร์จเจอร์ดังกล่าวเอง

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

ยูเอสบี-ซี

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

หมี่ยูไอ 10.2

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

สีสวย

นอกจากนี้ หมี่ 9 ยังมีฟีเจอร์ล่าสุดของสมาร์ตโฟนปีนี้ คือ ระบบสแกนลายนิ้วมือบนจอภาพ ผู้ใช้แตะเพื่อปลดล็อกหน้าจอได้อย่างรวดเร็ว หรือแตะแช่ไว้เพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นที่ตั้งค่าได้เอง แม้ความเร็วการตอบสนองไม่จัดว่าอยู่ในขั้นเร็วสุดๆ

เหมือนสมาร์ตโฟนจากค่ายหัวเว่ย แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวถือว่าปลอดภัยกว่าการปลดล็อกด้วยใบหน้า

หมี่ 9 ยังมีปุ่มเพิ่มมาพิเศษอยู่ที่ขอบด้านซ้ายของเครื่อง (เหมือนเรือธงค่ายซัมซุง) โดยเมื่อกดแล้วจะเปิดการทำงานของระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ กูเกิ้ล แอสซิสแทนซ์ แต่ผู้ใช้เลือกตั้งค่าได้เองว่ากดแล้วจะให้เปิดแอพฯ อะไร หรือใช้ฟีเจอร์ใด

น่าเสียดายที่ตัวเลือกนั้นเป็นสิ่งที่ทางเสี่ยวหมี่กำหนดมาไว้ให้แล้ว ไม่สามารถตั้งค่าเป็นแอพฯ อื่นๆ ได้ตามใจชอบ

แอนดรอยด์อูธอรีตี ระบุว่า เสี่ยวหมี่ หมี่ 9 ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 9 จากกูเกิ้ล ประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมอินเตอร์เฟซแบบ หมี่ยูไอ (MIUI) 10.2 รุ่นล่าสุด สมกับความเชี่ยวชาญของเสี่ยวหมี่ที่เริ่มต้นธุรกิจในแวดวงไอทีด้วยการเป็น ผู้พัฒนาและออกแบบยูไอ ส่งผลให้อัตราเร็วของการตอบสนองนั้นรวดเร็วทันใจ

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

ทดสอบ – รายละเอียดชัดเจน

โดยในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ทางเสี่ยวหมี่เริ่มตัดทอนความคล้ายคลึงระหว่างหมี่ยูไอ กับไอโอเอสของทางแอปเปิ้ลลง ทำให้เริ่มเป็น ยูไอที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองมากขึ้น

ที่สำคัญมี Dark mode ที่จะปรับธีมทั้งหมดเป็นแบบดาร์กด้วย

เสี่ยวหมี่ หมี่ 9 ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) Qualcomm Snapdragon 855 ใช้เทคโนโลยีการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร (nm) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ Octa-core (8 หัว) มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2.84 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) สำหรับคอร์หลัก และ 2.32 GHz

สำหรับ 3 คอร์รอง และที่เหลืออีก 4 คอร์ รันที่ 1.78 GHz หน่วยประมวลผล กราฟิก (GPU) รุ่น Adreno 640 มีหน่วยความจำแรม (RAM) 6/8 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) 64/128 GB ถือว่าค่อนข้างน้อยเพราะไม่สนับสนุน microSD-card ผู้ใช้ต้องระมัดระวังเรื่อง เมมเต็มโดยเฉพาะรุ่นรอม 64 GB

ด้านประสิทธิภาพ

ทว่า ด้านประสิทธิภาพของหมี่ 9 นั้นถือว่าหายห่วง เพราะถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่สุดของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ด้วย SoC อย่าง Snapdragon 855 ทำให้หมี่ 9 สามารถรันแอพฯ ได้ทุกชนิดอย่างลื่นไหลรวดเร็ว

การทดสอบในเบนช์มาร์กอย่าง AnTuTu พบว่า ประสิทธิภาพของเครื่องนั้นเอาชนะผู้ทดสอบในแอพฯ ดังกล่าว ได้ถึงร้อยละ 99 และเอาชนะได้แม้แต่ สมาร์ตโฟนเล่นเกม หรือเกมมิ่งโฟนที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างสบายๆ

ดังนั้นเรื่องเกมกราฟิกสูงๆ ก็หายห่วงได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงระยะเวลาการใช้ที่หากมี สมาร์ตโฟนสเป๊กแรงก็อาจไม่ต้องเปลี่ยนอีกนานหลายปี

รีวิว‘เสี่ยวหมี่’หมี่ 9

ทดสอบ – ภาพถ่ายกลางคืน

มาดูด้านกล้องกันบ้าง เสี่ยวหมี่ หมี่ 9 มีกล้องหลังแบบ 3 เลนส์ ได้แก่ เลนส์หลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล (MP) รูรับแสงขนาด f/1.75 เลนส์เทเลโฟโต้ความละเอียด 12MP f/2.2 และเลนส์อัลตราวายความละเอียด 16MP

f/2.2 โดยเลนส์หลักใช้เซ็นเซอร์ภาพเป็น IMX586 จากค่ายโซนี่ ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าชนได้กับกล้องของเรือธงอย่างหัวเว่ยและออเนอร์ที่ความละเอียด 48MP และ ผู้ใช้เลือกปรับลดความละเอียดของภาพ ลงได้หากต้องการลดขนาดไฟล์ลง

อดัม ซินนิกกี ผู้ทดสอบจากแอนดรอยด์อูธอรีตี กล่าวว่า ภาพที่ได้จากกล้องหลังของหมี่ 9 นั้นอยู่ในเกณฑ์ดีตามคาด ไม่ว่าจะเป็นความคมชัด รายละเอียด และสีสันที่ชุ่มฉ่ำ รวมทั้งไดนามิกเรนจ์ที่สูง ด้วยความที่กล้องมีความละเอียดสูงนั้น ยังช่วยลดทอน noise ต่อภาพที่ถ่ายใน ที่มืดด้วย

ขณะที่ระบบ Auto-Focus (AF) ทำงานได้ไวและแม่นยำ ทำให้ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอสนุก โดยเทคนิคการถ่ายภาพแบบ โบเก้ (Bokeh) พบว่า ระบบแยกขอบของวัตถุที่โฟกัสได้แนบเนียนกับฉากหลังที่เบลอได้ดีเยี่ยม

เลนส์อัลตราวายของหมี่ 9 ก็ให้ผลลัพธ์ที่น่าชื่นชมเช่นกัน ด้วยองศาการถ่ายที่กว้างถึง 117 องศา แม้จะไม่กว้างเท่ากล้องหลังของกาแล็กซี เอส 10 จากซัมซุง (123 องศา) ก็ตาม แต่ก็สามารถทำให้เก็บภาพกว้างได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบหมู่คณะ หรือภาพวิวกว้างๆ ขณะที่เลนส์เทเลโฟโต้ หรือเลนส์ซูมความละเอียด 12MP นั้นทำให้การซูมภาพไม่แตกมากจนน่าเกลียด

อย่างไรก็ตาม ซินนิกกีมองว่า ระบบประมวลผลหลังการถ่ายภาพ (post processing) ของหมี่ 9 ส่งผลให้ภาพ ที่ได้ออกมานั้นมีความอิ่มของสีมากเกินไปในหลายโอกาส แม้ผู้ใช้จะหลีกเลี่ยงได้ด้วยการไปใช้โหมดโปร แต่การที่โหมดอัตโนมัติเป็นเช่นนี้อาจทำให้บรรดาเอนด์ยูสเซอร์ทั้งหลายไม่ถูกใจไปทั้งหมด

แต่ในภาพรวมแล้วกล้องของหมี่ 9 นั้นถือว่ายอดเยี่ยมกระทบไหล่เรือธงพรีเมียมราคาแพงๆ เหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพสมัครเล่น และโซเชี่ยลมีเดีย

กล้องหน้าของหมี่ 9

กล้องหน้าของหมี่ 9 ยังเหมาะสำหรับบรรดาผู้ชื่นชอบการถ่ายเซลฟี่ด้วย เพราะมีความละเอียดสูงถึง 20MP พร้อมลูกเล่นมากมาย รวมถึงการถ่ายคลิปสั้นและสโลว์โมชั่น ตลอดจนการปรับแต่งใบหน้าเพื่อความสวยงาม อาทิ ปรับคาง ปรับหน้าวีเชป และเครื่องสำอางด้วย!

ด้านการถ่ายวิดีโอด้วยหมี่ 9 ก็ให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ โดยกล้องหลังสามารถถ่ายได้ความละเอียดสูงสุด 4K ที่อัตราเฟรม 30 เฟรมต่อวินาที (4K@30fps) มีระบบต่อต้านภาพสะเทือนด้วยซอฟต์แวร์ (EIS) ซึ่งทำงานได้ดีเยี่ยมราวกับใช้ฮาร์ดแวร์ (OIS) จุดนี้ทางเว็บไซต์ DxOMark ถึงขั้นจัดให้หมี่ 9 เป็นสมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอที่จัดอยู่ในระดับดีที่สุดของชั่วโมงนี้ด้วย

สำหรับทีมไอทีข่าวสด มีข้อสรุปว่า เสี่ยวหมี่ หมี่ 9 เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เพราะยังขาดฟีเจอร์หลายอย่าง อาทิ microSD-card ไม่มีช่องเสียบหูฟัง แบตฯ ที่มีขนาดเล็กเกินไป และลำโพงที่คุณภาพเสียงยังไม่โดดเด่น แต่เหล่านี้ชดเชยด้วยฟีเจอร์ส่วนใหญ่ที่เป็นเทคโนโลยี ล่าสุด ซึ่งจะมีในเฉพาะสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียม

บวกกับการออกแบบภายนอกที่สวยงามน่าใช้มากๆ ในราคา 16,999 บาท ถือเป็นเรือธงที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่เคยรู้จักมา!

จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน