มาตรการที่ผิดทิศ

คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย

มาตรการที่ผิดทิศ – เรียน บ.ก.ข่าวสด

รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะแจกเงินช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 จริงๆ แล้วก็กระทบกันหมดตั้งแต่ลูกจ้างยันเถ้าแก่ หรือทำงานอิสระ ขับรถแท็กซี่ ขายของ รับจ้าง ถ้าจะแจกน่าจะเป็นคูปองเพื่อเอาไว้แลกเปลี่ยนสินค้าที่จำเป็นต่อชีวิตจะดีกว่า ขื

นแจกเข้าพร้อมเพย์ ไปกดเป็นเงินสดออกมา หวั่นว่าจะนำไปใช้อย่างอื่นมากกว่าสิ่งจำเป็นในชีวิต จะไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการใช้จ่าย อย่างเช่น นำไปซื้อยาเสพติด หรือซื้อหวยใต้ดิน เล่นการพนัน เจ้ามือรวบหมด

แต่ถ้าเป็นคูปองนำไปแลกเป็นข้าวสาร อาหารแห้ง กะปิ น้ำปลา น้ำมัน ฯลฯ จะเกิดสภาพคล่องมากกว่า เพราะของจากคูปองก็ต้องซื้อจากร้านค้า แต่ตอนนี้มีเหตุการณ์เฉพาะหน้าคืออุปกรณ์การแพทย์ไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้เจ็บป่วย โดยเฉพาะผู้ที่รับเชื้อไวรัสโควิด-19 ถ้าเอาเงินที่จะแจกไปหนุนระบบสาธารณสุขก่อนจะดีกว่าไหม

เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่นิ่งควบคุมยังไม่ได้ แม้แต่หน้ากากอนามัยยังขาดแคลน ยังต้องสั่งให้ อบจ., อบต.เทศบาล จัดทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเอง นี่ยังดีที่มีภาคเอกชนทนดูไม่ได้ต้องเข้ามาช่วย รับปากว่าจะตั้งโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยแจกฟรี

อีกอย่างเอาเงินหนุนเพื่อให้คนไปเที่ยวจับจ่ายใช้สอย น้อยคนนักที่จะมีใจอยากไปเที่ยวนอกบ้าน เพราะไม่รู้ว่าคนที่นั่งข้างๆ เรามีเชื้อไวรัสระยะพร้อมแพร่กระจายหรือไม่ ไอจามไม่ปิดปากปิดจมูกรับเชื้อกันไปเต็มๆ พูดน้ำลายกระเด็นถูกตัวก็มีสิทธิติดได้ ขนาดเจมส์ บอนด์ 007 ภาคล่าสุดที่กำหนดฉายทั่วโลกในเดือนเมษาฯ ยังต้องเลื่อนออกไปปลายปี

สรุปว่า 1.คุมไวรัสให้อยู่หมัดก่อน 2.ติดตามผู้คนที่มาจากประเทศที่เสี่ยงจากเชื้อไวรัสให้อยู่ในที่ควรอยู่ก่อน ในเวลาที่กำหนด เมื่อทุกอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะชิม ช้อป ใช้ ไทยเที่ยวไทย หรือซื้อสินค้านำใบเสร็จไปลดภาษี จัดมาเลย

นับถือ

โลกกลม

ตอบ โลกกลม

ล่าสุดนายกฯ สั่งเบรกแผนแจกเงินกู้วิกฤตโควิดแล้ว เพราะโดนวิจารณ์หนัก ถ้าผู้นำรัฐบาลอ่านความเห็นที่คุณเสนอแนะมา ก็จะรู้ว่าแนวทางที่ถูกต้องควรเป็นเช่นไร คือ เอาเงินมาจัดหาอุปกรณ์หน้ากากให้แพทย์และพยาบาลก่อนดีกว่า จัดหาหน้ากากให้ประชาชนครบถ้วนถูกทางกว่า คุมไวรัสให้ปลอดภัยก่อน แล้วค่อยมาคิดเรื่องแจกเงิน

เห็นใจห้างสรรพสินค้า

ถึง คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

ขอบ่น ระยะหลังห้างสรรพสินค้ามักจะกลายเป็นสถานที่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ รู้สึกเห็นใจเพราะในห้างจะมีบรรดาร้านค้ารายย่อยมาเช่าขายของ เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องส่วนตัวกันทั้งนั้น ทำให้หลายคนหวาดผวาไม่อยากเข้าไปซื้อหรือเดินเล่นในห้าง ทุกวันนี้ห้างจะเงียบมาก เจ้าของห้างไม่เท่าไหร่เพราะมีทุนอยู่แล้ว แต่คนทำมาหากินเช่าพื้นที่ลำบาก บางวันยังไม่ได้เปิดบิลขายของเลย ซ้ำร้ายนักท่องเที่ยวหดหายเพราะเชื้อไวรัสระบาดอีก

รายย่อย

ตอบ รายย่อย

สรุปว่าโดนทั้งปัญหาคนก่อเหตุยิงในห้าง ทั้งเรื่อง ผวาไวรัส แล้วยังมีสภาพเศรษฐกิจอีก เลยทำให้ห้าง ต่างๆ เงียบเหงาไปตามๆ กัน เมื่อผ่านพ้นวิกฤตไปได้ ก็ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลนี้จะสามารถฟื้นฟูภาพรวมให้กลับมาได้เร็วหรือไม่