เสียงสะท้อนมาตรการโควิด

คอลัมน์ บ.ก.ตอบจดหมาย

เสียงสะท้อนมาตรการโควิด/ นักท่องเที่ยวโผล่สิมิลัน –

เสียงสะท้อนมาตรการโควิด

เรียน บ.ก.

แม้ว่าจะมีประกาศภาวะฉุกเฉิน หนึ่งในบัญญัติการปฏิบัติตัวภายใต้ภาวะฉุกเฉินก็คือ ห้ามส่งข้อมูลข่าวสารที่อาจจะมีผลต่อมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและสร้างการตื่นตระหนก แต่ก็มิได้หมายความว่าประชาชนจะต้อง “ล็อกนิ้ว” มาตรการต่างๆ ที่นำมาใช้จะมีผลอย่างไร ประชาชนก็สามารถสะท้อนความคิดเห็นเข้าสู่ระบบโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก เพื่อให้รัฐบาลได้ทราบข้อเท็จจริง

ผมสอบถามความคิดของลูกจ้างผับว่าคิดจะทำอย่างไรในสถานการณ์ฉุกเฉิน คำตอบที่ได้รับก็คือ “กลับภูมิลำเนา” ซึ่งเมื่อถูกถามต่อว่า กลับไปทำอะไร คำตอบก็คือ “ทำนา” ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามาตรการยกเลิกวันหยุดสงกรานต์ เยียวยาลูกจ้างนอกระบบประกันสังคมเดือนละ 5,000 บาทเป็นเวลาสามเดือน ผลที่ได้ก็ยังเป็นการย้ายถิ่นฐานเหมือนเดิม

แสดงว่าคนไทยยังไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพราะไม่สนใจว่าโรคโควิด-19 จะแพร่ระบาดไปติดพ่อแม่ เพราะไม่เชื่อว่าตนติดเชื้อ แต่การเดินทางกลับภูมิลำเนาร่วมกับคนหมู่มากก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัสสูงมาก เรื่องนี้ยืนยันได้ด้วยภาพสถานี บขส.ที่คลาคล่ำด้วยประชาชนที่จะเดินทางออกจากกรุงเทพฯ

ดังนั้น มาตรการเยียวยาลูกจ้างนอกระบบประกันสังคม นอกจากไม่สามารถลดการแพร่ระบาดได้แล้ว ยังทำให้การแพร่ระบาดเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะคนไทยไม่รับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้น มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดจึงต้องเข้มงวดและรัดกุมมากกว่านี้

ถ้าเป็นจริงตามการวิเคราะห์ของคณะแพทย์ที่ว่ากลางเดือนเมษายนจะมีผู้ติดเชื้อ 350,000 คนและมีผู้เสียชีวิต 7,000 คน ก็หมายความว่ารัฐบาลเรือเหล็กล้มเหลว นอกจากนั้นก็ยังมีพฤติกรรมเหมือนตำรวจอู่ฮั่นที่ตั้งข้อหาหมอหลี่ว่าทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะวันนี้ยังมีการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีบางคนวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่หมอออกมาบอกว่ายังขาดแคลนอุปกรณ์ เช่น ชุดตรวจ ว่าเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้สังคม

และเมื่อสภาวการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นแบบหิมะถล่มหรือน้ำตก หมายความว่าเวลายิ่งผ่านไปก็ยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นมหาศาล ดังนั้น อีก 20 วันข้างหน้าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อถึง 350,000 คนจริงก็เป็นไปได้ เรื่องนี้จะเป็นประวัติศาสตร์สุดรันทดของชาติไทย

แมวมอง

ตอบ แมวมอง

เห็นด้วยกับคุณที่ว่า แม้ประกาศภาวะฉุกเฉินกรณีโควิด และตักเตือนการใช้โซเชี่ยลมีเดียก็ตาม แต่ประชาชนก็ควรจะสะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นได้ เพื่อให้เห็นว่ามาตรการต่างๆ ถูกผิดหรือมีปัญหาเช่นไร

นักท่องเที่ยวโผล่สิมิลัน

เรียน บ.ก.ข่าวสด

เท็จจริงประการใด เรื่องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เข้าไปเที่ยวได้หรือ เห็นว่าสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกประกาศปิดการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทุกแห่ง

เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยปิดอย่างเป็นทางการตั้งแต่ 25 มีนาคมแล้ว คนไทยด้วยกันเองไม่เคารพกฎหมายบ้านเมืองเลย ถ้าเคารพจริงคงไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ไปได้ ขืนเป็นเช่นนี้ไทยเราต้องชนะสหรัฐ จีน อิตาลีแน่นอน

นายหัวรถตู้

ตอบ นายหัวรถตู้

อธิบดีกรมอุทยานฯ ชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการจำหน่ายบัตรไปล่วงหน้า และติดต่อสื่อสารกันไม่ได้ แต่ในวันดังกล่าวเมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงได้ชี้แจงทำความเข้าใจว่าอุทยานฯ ปิดด้วยเหตุโควิด พร้อมกับได้คืนเงินและให้เดินทางกลับไปในทันที

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน