ทุกข์ของผู้พิการลำปาง
คอลัมน์ บก.ตอบจดหมาย
ทุกข์ของผู้พิการลำปาง – ถึง บ.ก.ข่าวสด
ข้าพเจ้าสองสามีภรรยา เป็นผู้พิการทางสายตา ประกอบอาชีพนวดอยู่จังหวัดลำปาง ชื่อร้าน “ชุติกาญจน์-วิโรจน์” ร้านได้รับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ตอนนี้ได้รับผล กระทบจากการที่ทางราชการให้ปิดบริการด้วยมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ปิดร้านมาตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าและสามีไม่มีเงินเก็บไว้เป็นทุนสำรอง
เมื่อปิดให้บริการทำให้เดือดร้อน ลำพังอาหารการกินไม่เท่าไหร่เพราะเพื่อนบ้านและชาวบ้านที่เห็นสงสารจะหยิบยื่นอาหารแห้ง ทั้งปลากระป๋อง บะหมี่สำเร็จรูป ไว้พอประทังชีวิต ที่สำคัญคือค่าเช่าบ้านและค่าไฟฟ้า ไปหายืมกับใครก็ไม่ได้ ทุกคนก็เดือดร้อนเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะหาจากไหนมาจ่าย ญาติพี่น้องไม่มีและไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ถ้าเจ้าของบ้านไม่ให้อยู่ก็ไม่รู้ว่าจะไปอาศัยนอนที่ไหน ส่วนค่าไฟฟ้าต้องจ่ายเดือนละ 2,000-3,000 บาท เนื่องจากมีลูกค้ามานวดต้องเปิดแอร์ ค่าใช้จ่ายต่างๆอีก โดยมีรายได้ประจำจากเบี้ยยังชีพคนพิการคนละ 800 บาท
ข้าพเจ้าลงทะเบียนเพื่อรับเงิน 5,000 บาทไว้เหมือนกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้เมื่อไหร่ ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทางราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาผ่อนผันเหมือนร้านตัดผมบางจังหวัดที่เริ่มอนุญาตให้เปิดบริการได้ ข้าพเจ้าและสามีไม่อยากให้เป็นภาระ พยายามดิ้นรนแต่ด้วยศักยภาพบางอย่างทำให้เป็นเช่นนี้ โอกาสการต่อสู้ด้วยตัวเองจึงมีน้อยกว่าคนทั่วไป ผู้พิการทางสายตาที่มีความเป็นอยู่เหมือนข้าพเจ้าเชื่อว่ายังมีอยู่จำนวนมากที่รอการช่วยเหลือเช่นกัน
ด้วยความเคารพ
นางชุติกาญจน์ แล้งไง
ตอบ นางชุติกาญจน์
เป็นข้อร้องเรียนที่น่าเห็นใจมาก การที่เป็นผู้สายตาพิการแต่มีความมุ่งมั่นเปิดร้านนวด หากินด้วยลำแข้ง ตัวเองเป็นเรื่องน่าชื่นชม แต่มาได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดและต้องอยู่ในมาตรการควบคุมโรค ทำให้ได้รับผลกระทบต่อปากท้องความเป็นอยู่ หวังว่าหน่วยงานในจังหวัดลำปางหรือรัฐบาลจะได้รับทราบและหาทางเยียวยาด้วย
ยาฆ่าไวรัสในขวดน้ำดื่ม
เรียน บ.ก.
หน่วยงานแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ที่นำยาฆ่าเชื้อไวรัสใส่ในขวดน้ำดื่มแล้วนำไปแจกชาวบ้าน เป็นความหวังดี แต่ด้วยที่ขวดเป็นขวดพลาสติกใสเคยเป็นขวดน้ำดื่มถึงแม้ว่าจะมีกระดาษติดปะแล้วก็ตาม ถ้าชาวบ้านที่ไม่ได้อ่านหรือไม่ทันสังเกตก็คิดว่าเป็นน้ำดื่มบรรจุขวดที่ทางการนำมาแจก บางรายต้องส่งโรงพยาบาลล้างท้องช่วยชีวิต ขอแนะนำว่าถ้าเลี่ยงได้ไม่ควรนำขวดพลาสติกใสเด็ดขาด ใช้เป็นแกลลอนจะดีกว่า ฉลากที่ปิดขวดควรชัดเจนระบุชื่อยาฆ่าเชื้อ เพราะปลายทางคือผู้ที่รับแจกซึ่งมีคนในบ้านทั้งผู้สูงวัยและเด็ก บางบ้านมีคนต่างชาติที่อ่านภาษาไทยไม่ออกจะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นน้ำดื่ม ผู้ใหญ่ในบ้านก็ควรใส่ใจเช่นเดียวกันได้รับแจกควรเก็บให้ห่างไกลมือเด็ก
ด้วยความเคารพ
คลอง 7 ลำลูกกา
ตอบ คลอง 7 ลำลูกกา
ถือเป็นความไม่รอบคอบ สร้างความสับสนให้กับชาวบ้านอย่างมาก จนมีผู้เจ็บป่วยเพราะเข้าใจว่าเป็นน้ำดื่ม ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลมาแล้วหลายราย เหตุการณ์ เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก หน่วยงานรัฐที่แจกจ่ายยาฆ่าเชื้อไวรัสแต่ใส่ในขวดน้ำดื่มดังกล่าวต้องรีบแก้ไขด่วน
