เจ-งดผักมีกลิ่นอย่างเด็ดขาด
คอลัมน์ สวรรค์ในครัว หนังสือพิมพ์ข่าวสด โดย “เขียง มะขาม”
เป็นอย่างนี้มาทุกปี
คือพอหมดเทศกาลกินเจแล้วถึงได้เขียนเรื่องอาหารเจ
เหตุเพราะว่าต้องกินก่อนถึงจะถ่ายรูป–ทำเรื่องได้
ยังไม่กินเจก็จะไม่มีอาหารเจให้กิน ให้พูดถึง
ทุกเทศกาลเจ จะเจกันไปเกือบหมดทั้งครอบครัว
เนื่องจากคุณยายกินเจแบบเคร่ง ต้องไปเข้าตั๊ว
อาหารเจที่บ้านก็เลยเป็นแบบเคร่งไปด้วย
งดผักมีกลิ่นอย่างเด็ดขาด
โบกมือลา กระเทียม–ต้นหอมเป็นการชั่วคราว
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอร่อย
ถ้าเป็นพวกของต้องใช้เวลาหรือของสำเร็จ
อย่างกาน่าฉ่ายหรือขาเห็ดหอมอะไรพวกนั้น
ส่วนใหญ่จะไปมีพี่ๆ น้องๆ ไปซื้อจากเยาวราชมาตุนไว้ให้ก่อน
แต่ถ้าของเบ–เบ อย่างผัก–เต้าหู้อะไรนี่
ให้ร้านดังขนาดไหนก็กินคุณยายไม่ลง
ต้มจับฉ่ายเจ ใส่ผักแค่ 2 อย่าง ผักกาดขาวกับกะหล่ำปลี แล้วใส่เต้าหู้ ฟองเต้าหู้ เห็ดหอม
ออกทางผัดมากกว่าต้ม
ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวอย่างเดียว
แค่เหยาะๆ เท่านั้นด้วย
แต่อยู่ที่ระดับการคุมไฟและระยะเวลาในการผัด ที่จะให้ผักคายรสหวานตามธรรมชาติออกมาให้ได้มากที่สุด
(มากไปหรือแก่ไฟไปก็ขมนะครับ)
ทีนี้เพื่อไม่ให้เลี่ยนก็ต้องมีน้ำจิ้ม
ใช้ซีอิ๊วขาวเจกับพริกป่นบางช้างดีๆ ละลายให้เข้ากัน กลิ่นจะหอมติดจมูกขึ้นมา
เหยาะลงไปตัดรสนิดหน่อยพอ
นอกจากจับฉ่ายแล้วขาประจำอีกอย่างก็คือผัดมะเขือยาว
วันนี้มาในสูตรหวานเค็ม ใส่โหระพา
เช่นกัน ใช้น้ำตาล–ซีอิ๊วให้น้อยที่สุด
เอารสมะเขือยาวเป็นหลัก
ผัดให้นุ่ม แบบละลายในปากไม่ละลายในมืออะไรทำนองนั้นเชียว
อีกแบบคือใส่พริกด้วย ตัดเลี่ยน
ก็พริกชี้ฟ้าธรรมดานี่ละครับ หั่นตามยาวชิ้นใหญ่หน่อย
ผัดให้นุ่มไปด้วยกัน จนพริกออกหวาน แต่จะเผ็ดติดปลายๆ ลิ้น
คลุกข้าว กินกันเป็นกะละมัง
มาอ้วนตอนเจทุกที
หุหุ
……………………………………………………..
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
รู้ไปโม้ด : เทศกาล กินเจ ทำไมต้องใส่ชุดขาว ใส่ชุดสีอื่นไม่ได้หรือ